เตรียมบัญชีลูกค้า

ในขั้นตอนนี้ คุณต้องระบุบัญชี Google Ads ที่จะเรียก API บัญชีดังกล่าวอาจเป็นบัญชีเวอร์ชันที่ใช้งานจริง (เวอร์ชันที่เผยแพร่) หรือบัญชีทดสอบก็ได้ แต่ละวิธีมีทั้งข้อดีและข้อเสีย

บัญชีเวอร์ชันที่ใช้งานจริง
บัญชีทดสอบ
ข้อดี
  • เขียนและทดสอบโค้ดที่ทํางานกับเนื้อหาของบัญชีที่เฉพาะเจาะจงได้ง่ายขึ้น
  • เขียนและทดสอบโค้ดที่ประมวลผลข้อมูลการรายงานแบบเรียลไทม์ได้ง่ายขึ้น
  • บัญชีทดสอบไม่แสดงโฆษณา ดังนั้นข้อบกพร่องในการเขียนโปรแกรมจะไม่ส่งผลต่อแคมเปญที่ใช้งานอยู่
  • ใช้ได้กับโทเค็นของนักพัฒนาแอปที่มีระดับการเข้าถึงระดับการทดสอบ
ข้อเสีย
  • ข้อบกพร่องในการเขียนโปรแกรมในระยะการพัฒนาอาจส่งผลต่อการแสดงแคมเปญที่เผยแพร่อยู่ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาต่างๆ เช่น ประสิทธิภาพแคมเปญไม่ดี การแสดงที่ไม่ถูกต้อง หรือการสูญเสียทางการเงิน
  • โทเค็นของนักพัฒนาแอปควรมีระดับการเข้าถึงขั้นพื้นฐานเป็นอย่างน้อยจึงจะเรียก API ได้
  • คุณต้องสร้างแคมเปญใหม่ภายในบัญชีทดสอบเพื่อทดสอบโค้ดที่ทํางานกับเนื้อหาบัญชีที่เฉพาะเจาะจง
  • เนื่องจากบัญชีทดสอบไม่แสดงโฆษณา ระบบจึงไม่รองรับฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องกับการแสดงโฆษณาจริง เช่น สถิติการรายงาน ข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการละเมิดนโยบาย หรือการประมวลผลการนําเข้า Conversion ออฟไลน์ ซึ่งทําให้การทดสอบฟีเจอร์เหล่านั้นเป็นเรื่องยาก

เราขอแนะนำให้ใช้บัญชีทดสอบขณะพัฒนาแอปพลิเคชันหากเป็นไปได้ โปรดดูวิธีการที่หัวข้อสร้างบัญชีและแคมเปญทดสอบ

อีกทางเลือกหนึ่งคือสร้างบัญชีเวอร์ชันที่ใช้งานจริงซึ่งมีงบประมาณบัญชีต่ำ เช่น $1/วัน เพื่อทดสอบฟีเจอร์ที่บัญชีทดสอบไม่รองรับ

ตัวเลือกชุดฟีเจอร์

สิ่งที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมเมื่อเลือกบัญชีสําหรับการเรียก API คือรายการฟีเจอร์ที่คุณต้องการใช้กับ API แม้ว่าคุณจะเลือกใช้บัญชีเวอร์ชันที่ใช้งานจริง แต่ก็มีฟีเจอร์บางอย่างที่เจาะจงบัญชี เช่น

  • หากต้องการใช้ฟีเจอร์การเรียกเก็บเงิน คุณต้องมีบัญชีที่ใช้การแจ้งหนี้รายเดือน
  • ฟีเจอร์ใหม่บางรายการในบัญชีอาจถูกจำกัดโดยรายการที่อนุญาต

ก่อนสร้างบัญชีให้เสร็จสมบูรณ์เพื่อเรียก API ให้ตรวจสอบเอกสารประกอบของฟีเจอร์นั้นๆ เพื่อให้แน่ใจว่าฟีเจอร์ไม่มีข้อจํากัดเพิ่มเติม

ระบุรหัสลูกค้าที่ใช้เข้าสู่ระบบและรหัสลูกค้า

หากต้องการเรียก API ไปยังลูกค้า Google Ads คุณต้องให้สิทธิ์เข้าถึงและสิทธิ์ที่เหมาะสมแก่บัญชีบริการแก่บัญชีลูกค้าโดยตรงหรือผ่านบัญชีดูแลจัดการที่ลิงก์ โดยต้องมีสิทธิ์เข้าถึงระดับผู้ดูแลระบบในบัญชีลูกค้า

เริ่มต้นด้วยการลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads ในฐานะผู้ดูแลระบบ ในบางกรณี คุณอาจมีบัญชีลูกค้าให้เลือกมากกว่า 1 บัญชี บัญชีที่คุณเลือกจะสร้างรหัสลูกค้าสำหรับการเข้าสู่ระบบ ซึ่งเป็นส่วนหัวที่จำเป็นสำหรับการเรียกใช้ API บางรายการ

หลังจากระบุลูกค้า Google Ads ที่จะเรียก API แล้ว ให้จดรายละเอียดต่อไปนี้ไว้

  • รหัสลูกค้า 10 หลักของบัญชีลูกค้าที่คุณจะเรียกใช้ API ซึ่งบางครั้งเรียกว่าลูกค้าปฏิบัติการ

  • รหัสลูกค้าสำหรับการเข้าสู่ระบบ 10 หลักของบัญชีลูกค้าที่ลงชื่อเข้าใช้อยู่ หากคุณลงชื่อเข้าใช้ลูกค้าปฏิบัติการ รหัสลูกค้าสำหรับการเข้าสู่ระบบจะเหมือนกับรหัสลูกค้า หากคุณลงชื่อเข้าใช้บัญชีดูแลจัดการของลูกค้าที่ดําเนินการ รหัสลูกค้าที่ใช้เข้าสู่ระบบจะเป็นรหัสลูกค้าของบัญชีดูแลจัดการ

ให้สิทธิ์เข้าถึงบัญชีบริการ

  1. ขณะลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads ในฐานะผู้ดูแลระบบ ให้ไปที่ผู้ดูแลระบบ > การเข้าถึงและความปลอดภัย

  2. คลิกปุ่ม + ใต้แท็บผู้ใช้

  3. พิมพ์อีเมลของบัญชีบริการในกล่องป้อนข้อมูลอีเมล เลือกระดับการเข้าถึงบัญชีที่เหมาะสม แล้วคลิกปุ่มเพิ่มบัญชี โปรดทราบว่าบัญชีบริการไม่รองรับระดับการเข้าถึงอีเมล

  4. บัญชีบริการได้รับสิทธิ์เข้าถึง

โดยค่าเริ่มต้น คุณจะไม่สามารถให้สิทธิ์เข้าถึงระดับผู้ดูแลระบบแก่บัญชีบริการได้ หากการเรียกใช้ API ของคุณต้องใช้สิทธิ์เข้าถึงระดับผู้ดูแลระบบ คุณสามารถอัปเกรดสิทธิ์เข้าถึงได้โดยทำดังนี้

  1. คลิกลูกศรแบบเลื่อนลงข้างระดับการเข้าถึงของบัญชีบริการในคอลัมน์ระดับการเข้าถึง

  2. เลือกผู้ดูแลระบบจากรายการแบบเลื่อนลง