ใช้บริการ Places และ Geocoding API กับการจัดรูปแบบตามข้อมูลสำหรับขอบเขต

เลือกแพลตฟอร์ม Android iOS JavaScript

คุณสามารถใช้บริการ Places และ Geocoding API กับ Maps SDK สําหรับ Android เพื่อค้นหาภูมิภาคและดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่ได้ บริการ Places และ Geocoding API เป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพและเสถียรในการรับรหัสสถานที่ หากใช้รหัสสถานที่อยู่แล้ว คุณสามารถนำรหัสเหล่านั้นมาใช้ซ้ำกับการจัดสไตล์ตามข้อมูลที่ขับเคลื่อนขอบเขตได้

เพิ่มบริการ Places และการแปลงพิกัดภูมิศาสตร์ลงในแอป Maps SDK สําหรับ Android ของคุณด้วยวิธีต่อไปนี้

  • Places SDK สำหรับ Android เป็นไลบรารี Android ที่มีเมธอดในการแสดงข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่
  • Places API จะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่โดยใช้คำขอ HTTP
  • คลาสตัวแปลงพิกัดภูมิศาสตร์สามารถเข้ารหัสพิกัดภูมิศาสตร์และเข้ารหัสพิกัดภูมิศาสตร์แบบย้อนกลับแบบไดนามิกจากข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อน
  • Geocoding API ช่วยให้คุณเข้ารหัสพิกัดภูมิศาสตร์ที่อยู่แบบคงที่ซึ่งทราบอยู่แล้วได้

ใช้บริการ Places

ใช้การค้นหาข้อความ (ใหม่) เพื่อค้นหารหัสสถานที่

คุณสามารถใช้ Text Search (ใหม่) REST API ใน Places API เพื่อรับรหัสสถานที่ที่มีข้อมูลภูมิภาคโดยระบุ places.id ในมาสก์ฟิลด์ การใช้การค้นหาข้อความ (ใหม่) เพื่อขอรหัสสถานที่จะไม่มีค่าใช้จ่าย ดูข้อมูลเพิ่มเติม

เช่น หากต้องการรับรหัสสถานที่สำหรับเมือง Trinidad, CA ให้เรียกใช้ API ต่อไปนี้

curl -X POST -d '{
  "textQuery" : "Trinidad, CA"
}' \
-H 'Content-Type: application/json' -H 'X-Goog-Api-Key: API_KEY' \
-H 'X-Goog-FieldMask: places.id' \
'https://places.googleapis.com/v1/places:searchText'

ใช้ฟีเจอร์ Place Autocomplete เพื่อค้นหาภูมิภาค

บริการ Place Autocomplete ใน Places SDK สําหรับ Android เป็นวิธีที่สะดวกในการช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาภูมิภาค หากต้องการกำหนดค่าบริการป้อนข้อความอัตโนมัติของสถานที่ให้แสดงเฉพาะภูมิภาค ให้ใช้ AutocompleteSupportFragment.setTypesFilter(List) เพื่อตั้งค่าตัวกรองประเภทเป็น PlaceTypes.REGIONS

ดูรายละเอียดสถานที่สำหรับภูมิภาค

บริการรายละเอียดสถานที่ใน Places SDK สําหรับ Android ที่แสดงผลข้อมูลสําหรับภูมิภาคหนึ่งๆ นั้นมีประโยชน์มาก ตัวอย่างเช่น คุณสามารถ

  • ค้นหารหัสสถานที่ที่เป็นขอบเขตตามชื่อสถานที่
  • รับวิวพอร์ตเพื่อซูมไปยังขอบเขต
  • รับประเภทองค์ประกอบของขอบเขต (เช่น locality)
  • รับที่อยู่ที่มีการจัดรูปแบบ ซึ่งจะแสดงผลเป็น "ชื่อสถานที่ รัฐ ประเทศ" ในภูมิภาคสหรัฐอเมริกา (เช่น "Ottumwa, IA, USA")
  • รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ เช่น รูปภาพ

ใช้ Geocoding API

Geocoding API ช่วยให้คุณแปลงที่อยู่เป็นพิกัดละติจูดและลองจิจูด รวมถึงรหัสสถานที่ หรือแปลงพิกัดละติจูดและลองจิจูดหรือรหัสสถานที่เป็นที่อยู่ได้ การใช้ต่อไปนี้เข้ากันได้ดีกับการจัดสไตล์ตามข้อมูลที่ขับเคลื่อนโดยข้อมูลสําหรับขอบเขต

  • ใช้การจับคู่พิกัดภูมิศาสตร์เพื่อรับวิวพอร์ตของภูมิภาค
  • ใช้การกรองคอมโพเนนต์กับการเรียกใช้การแปลงที่อยู่เป็นพิกัดภูมิศาสตร์เพื่อรับรหัสสถานที่สำหรับเขตบริหาร 1-4 เขตหรือรหัสไปรษณีย์
  • ใช้การจับคู่พิกัดภูมิศาสตร์ย้อนกลับเพื่อค้นหารหัสสถานที่ตามพิกัดละติจูดและลองจิจูด หรือแม้แต่แสดงรหัสสถานที่สำหรับองค์ประกอบทั้งหมดในสถานที่หนึ่งๆ

ตัวอย่างต่อไปนี้ใช้ที่อยู่ (URL ที่แปลงค่า) เพื่อส่งคำขอไปยัง Geocoding API

https://maps.googleapis.com/maps/api/geocode/json?address=1600%20Amphitheatre%20Pkwy%20Mountain%20View%20CA&key=YOUR_API_KEY

คุณสามารถใช้การเข้ารหัสพิกัดภูมิศาสตร์แบบย้อนกลับเพื่อค้นหารหัสสถานที่ได้ ตัวอย่างฟังก์ชันบริการแปลงที่อยู่เป็นพิกัดภูมิศาสตร์ต่อไปนี้จะแสดงรหัสสถานที่สำหรับองค์ประกอบที่อยู่ทั้งหมดที่พิกัดละติจูดและลองจิจูดที่ระบุ

https://maps.googleapis.com/maps/api/geocode/json?latlng=41.864182,-87.676930&key=YOUR_API_KEY

ใช้การจับคู่พิกัดภูมิศาสตร์ย้อนกลับกับการกรองคอมโพเนนต์เพื่อรับคอมโพเนนต์ที่อยู่สำหรับประเภทต่อไปนี้อย่างน้อย 1 ประเภท ณ ตำแหน่งที่ระบุ

  • administrativeArea
  • country
  • locality
  • postalCode

ตัวอย่างฟังก์ชันถัดไปแสดงการใช้บริการการแปลงพิกัดภูมิศาสตร์ การเพิ่มข้อจำกัดขององค์ประกอบด้วยการแปลงภูมิศาสตร์ย้อนกลับเพื่อรับองค์ประกอบที่อยู่ทั้งหมดในตำแหน่งที่ระบุสำหรับประเภท locality เท่านั้น

https://maps.googleapis.com/maps/api/geocode/json?latlng=41.864182,-87.676930&result_type=locality&key=YOUR_API_KEY