การใช้งานไลบรารีของไคลเอ็นต์ขั้นพื้นฐานมีดังนี้
การติดตั้ง
วิธีที่แนะนำในการติดตั้งคือการใช้ bundler เพิ่มบรรทัด
ลงใน Gemfile (แทนที่ x.y.z ด้วยหมายเลขเวอร์ชันที่คุณสนใจ
)
gem 'google-ads-googleads', '~> x.y.z'
จากนั้นเรียกใช้
$ bundle install
คำสั่งนี้ใช้ Bundler เพื่ออัปเดต Gemfile.lock โดยล็อกเวอร์ชันที่แน่นอนของ Gem และการขึ้นต่อกันทั้งหมดของ Gem ที่ติดตั้งไว้ ตัวดำเนินการเวอร์ชันแบบมองในแง่ร้าย "~> x.y.z" ทำให้ bundle update ติดตั้งเฉพาะ
เวอร์ชันใหม่ในชุด x.y.* ดังนั้นคุณต้องเลือกใช้เวอร์ชันใหม่ด้วยตนเอง
โดยการอัปเดต Gemfile อีกครั้ง
ตัวเลือกการติดตั้งอื่นๆ
หากไม่ได้ใช้ Bundler คุณสามารถใช้ตัวเลือกใดตัวเลือกหนึ่งต่อไปนี้
- ติดตั้งไลบรารีนี้โดยใช้ Gem ดังนี้
terminal $ [sudo] gem install google-ads-googleads - ดาวน์โหลด Gem จากหน้าเผยแพร่และติดตั้ง
จากไฟล์ในเครื่องโดยทำดังนี้
terminal $ [sudo] gem install google-ads-googleads-[version].gem
ตั้งค่าการตรวจสอบสิทธิ์
หากต้องการตรวจสอบสิทธิ์การเรียก API ให้ทำตามวิธีการใน หน้าการตรวจสอบสิทธิ์และการให้สิทธิ์
การใช้งาน
หากต้องการรวม Gem ไว้ในโค้ด ให้ทำดังนี้
require 'google/ads/google_ads'
หากต้องการดึงข้อมูลบริการที่เฉพาะเจาะจง เช่น CampaignService ให้ทำดังนี้
client = Google::Ads::GoogleAds::GoogleAdsClient.new
campaign_service = client.service.campaign
ดูตัวอย่างใน GitHub เพื่อดูการสาธิตวิธีใช้ไลบรารีโดยละเอียดเพิ่มเติม
หลังจากคุ้นเคยกับตัวอย่างแล้ว เราขอแนะนำให้คุณทำความคุ้นเคยกับFactory ซึ่งมีชุดวิธีการระดับสูงที่สะดวกสำหรับการทำงานกับ Google Ads API
การจัดการข้อผิดพลาด
การเรียก API ไม่ได้สำเร็จทุกครั้ง เซิร์ฟเวอร์อาจแสดงข้อผิดพลาดหากการเรียก API ล้มเหลวด้วยเหตุผลบางประการ คุณควรบันทึกข้อผิดพลาดของ API และจัดการข้อผิดพลาดเหล่านั้น อย่างเหมาะสม
ระบบจะส่ง GoogleAdsException เมื่อเกิดข้อผิดพลาดของ API โดยจะมีรายละเอียดที่ช่วยให้คุณทราบว่าเกิดข้อผิดพลาดใด และคุณสามารถตั้งค่าฟังก์ชันตัวช่วย
เพื่อจัดการข้อผิดพลาดได้ ดูตัวอย่าง
ตัวแฮนเดิลข้อผิดพลาดใน GitHub