กระบวนการ OAuth บนเดสก์ท็อปและเว็บแอปพลิเคชัน

คู่มือนี้จะอธิบายวิธีตั้งค่า OAuth 2.0 สำหรับการเข้าถึง API โดยใช้ข้อมูลเข้าสู่ระบบของคุณเองและขั้นตอนในเดสก์ท็อปหรือขั้นตอนในเว็บ ขั้นตอนเหล่านี้ต้องทำเพียงครั้งเดียว เว้นแต่คุณจะเพิกถอน ลบ หรือต้องการเปลี่ยนแปลงขอบเขตที่อนุญาตสำหรับข้อมูลเข้าสู่ระบบ OAuth 2.0

สร้างข้อมูลเข้าสู่ระบบ OAuth 2.0

  1. ทําตามขั้นตอนเพื่อกําหนดค่าโปรเจ็กต์คอนโซล Google API สําหรับ Google Ads API

  2. จดบันทึกรหัสไคลเอ็นต์และรหัสลับไคลเอ็นต์ไว้ แล้วกลับมาที่หน้านี้

ตั้งค่าไลบรารีของไคลเอ็นต์

  1. ในเทอร์มินัล ให้เรียกใช้ตัวอย่าง generate_user_credentials.pl คุณสามารถแก้ไขค่า INSERT_XXX_HERE ในตัวอย่างก่อนเรียกใช้ หรือจะใช้อาร์กิวเมนต์บรรทัดคำสั่ง -client_id สำหรับรหัสไคลเอ็นต์และ -client_secret สำหรับรหัสลับไคลเอ็นต์ก็ได้

    perl generate_user_credentials.pl -client_id {client_id} -client_secret {client_secret}
    
  2. ตัวอย่างโค้ดนี้จะแจ้งให้คุณไปที่ URL ซึ่งคุณต้องให้สิทธิ์แอปเข้าถึงบัญชี Google Ads ในนามของคุณ

    Paste this url in your browser:
    https://accounts.google.com/o/oauth2/v2/auth?response_type=code&access_type=offline&client_id=...
    

    ไปที่ URL ในเซสชันเบราว์เซอร์ส่วนตัวหรือหน้าต่างที่ไม่ระบุตัวตน ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Google ที่ใช้เข้าถึง Google Ads โดยปกติแล้ว อีเมลนี้จะเป็นอีเมลเข้าสู่ระบบบัญชีดูแลจัดการ Google Ads ที่มีบัญชีทั้งหมดที่คุณต้องจัดการภายใต้ลําดับชั้นบัญชี คลิกดำเนินการต่อในหน้าจอขอความยินยอม OAuth 2.0

    หน้าจอขอความยินยอม OAuth 2.0

    ระบบจะนำคุณไปยังหน้าที่มีข้อความระบุว่าให้สิทธิ์เรียบร้อยแล้ว

    Authorization code was successfully retrieved.
    
  3. กลับไปที่คอนโซลที่ใช้เรียกใช้ตัวอย่างโค้ด คุณจะเห็นตัวอย่างโค้ดเสร็จสมบูรณ์และแสดงโทเค็นรีเฟรชและวิธีการบางอย่าง ตามด้วยวิธีการที่คุณต้องทำตามเพื่อกำหนดค่าไลบรารีไคลเอ็นต์

    Replace the following keys and values in your googleads.properties configuration file:
    
    clientId==***********************apps.googleusercontent.com
    clientSecret=****
    refreshToken=****
  4. กด Ctrl + C เพื่อสิ้นสุดกระบวนการ จากนั้นคัดลอกโทเค็นรีเฟรชที่สร้างขึ้นพร้อมกับรหัสไคลเอ็นต์และรหัสลับไคลเอ็นต์ลงในไฟล์ googleads.properties หรือบันทึกไว้ที่อื่นเพื่อใช้ในกรณีที่สร้างอินสแตนซ์ไลบรารีที่รันไทม์