การเปลี่ยนโฮสติ้ง
ทําตามคําแนะนํานี้เพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานของโฮสติ้งที่มีต่อประสิทธิภาพของเว็บไซต์ใน Google Search การเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างพื้นฐานของโฮสติ้งหมายถึงการเปลี่ยนผู้ให้บริการโฮสติ้งหรือการย้ายไปยังเครือข่ายเผยแพร่เนื้อหา (CDN) คู่มือนี้มีไว้เฉพาะสำหรับการย้ายที่ไม่ส่งผลต่อ URL ที่ผู้ใช้มองเห็น
ภาพรวม
- เตรียมโครงสร้างพื้นฐานโฮสติ้งใหม่ อัปโหลดเนื้อหาของคุณไปยังเซิร์ฟเวอร์ใหม่ หรือกำหนดค่า CDN และเซิร์ฟเวอร์ต้นทางของคุณ จากนั้นทำการทดสอบ
- เริ่มย้ายเว็บไซต์ เปลี่ยนการตั้งค่า DNS ของชื่อโดเมนของคุณเพื่อให้ชี้ไปที่โครงสร้างพื้นฐานโฮสติ้งใหม่ ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนการย้ายเว็บไซต์ที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งเป็นการเริ่มต้นกระบวนการส่งการเข้าชมของคุณไปยังโครงสร้างพื้นฐานใหม่
- ตรวจสอบการเข้าชม ตรวจสอบการเข้าชมที่ให้บริการโดยโฮสติ้งเก่าและใหม่
- ปิดระบบ ปิดโครงสร้างพื้นฐานโฮสติ้งเก่าเมื่อคุณมั่นใจว่าผู้ใช้ทั้งหมดได้รับเนื้อหาอย่างถูกต้องจากโครงสร้างพื้นฐานใหม่และไม่มีใครกำลังใช้โครงสร้างพื้นฐานเก่าอยู่
เตรียมโครงสร้างพื้นฐานของโฮสติ้งใหม่
หัวข้อนี้จะครอบคลุมขั้นตอนที่ต้องทำก่อนที่คุณจะเริ่มย้ายโครงสร้างพื้นฐานจริงๆ
คัดลอกและทดสอบเว็บไซต์ใหม่ของคุณ
ขั้นตอนแรก ให้อัปโหลดสำเนาของเว็บไซต์ไปที่ผู้ให้บริการโฮสติ้งใหม่ของคุณ "สําเนาเว็บไซต์" หมายถึงอะไรจะขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มการจัดการเนื้อหาเก่าของคุณโดยสิ้นเชิง ซึ่งอาจเป็นไฟล์ HTML จริงที่คุณจําลองในแพลตฟอร์มโฮสติ้งใหม่ หรือการส่งออกฐานข้อมูลที่คุณต้องนําเข้าไว้ในตําแหน่งใหม่ เมื่อคุณทำแล้ว ให้ยืนยันว่าไซต์ทำงานตามที่คาดไว้โดยการทดสอบทุกด้านอย่างละเอียดเกี่ยวกับวิธีการที่ผู้ใช้ทำการโต้ตอบกับเว็บไซต์ของคุณ ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำบางประการ
- สร้างสภาพแวดล้อมการทดสอบ ซึ่งอาจเป็นการเข้าถึงแบบจำกัด IP ซึ่งคุณจะใช้ทดสอบฟีเจอร์ทั้งหมดก่อนที่จะเปิดให้บริการเว็บไซต์
- เปิดเว็บไซต์ใหม่ในเว็บเบราว์เซอร์และตรวจสอบองค์ประกอบทั้งหมดของเว็บไซต์ ได้แก่ หน้าต่างๆ รูปภาพ แบบฟอร์ม และการดาวน์โหลด (เช่น ไฟล์ PDF)
-
อนุญาตการทดสอบแบบสาธารณะด้วยชื่อโฮสต์ชั่วคราวสำหรับโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของคุณ (เช่น
beta.example.com
) เพื่อให้คุณทดสอบความสามารถเข้าถึงได้ง่ายในเบราว์เซอร์ต่างๆ ได้ ชื่อโฮสต์ชั่วคราวจะช่วยให้ทดสอบได้ว่า Googlebot เข้าถึงเว็บไซต์ของคุณได้หรือไม่ หากไม่ต้องการให้มีการจัดทําดัชนีเว็บไซต์ทดสอบโดยไม่ตั้งใจ ให้เพิ่มกฎnoindex
ของrobots
ลงใน HTML หรือส่วนหัว HTTP ของหน้าเว็บ
ตรวจสอบว่า Googlebot เข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานของโฮสติ้งใหม่ได้
หากคุณยังไม่มีบัญชี Search Console ให้สร้างบัญชีใหม่สำหรับเว็บไซต์เพื่อใช้ตรวจสอบการเข้าถึงและการเข้าชมของ Google หากคุณสร้างชื่อโฮสต์ชั่วคราวสําหรับเว็บไซต์ใหม่ ให้ยืนยันพร็อพเพอร์ตี้นั้นด้วย ตรวจสอบว่า Googlebot เข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานใหม่ได้โดยใช้เครื่องมือตรวจสอบ URL ใน Search Console
ลดค่า TTL สำหรับระเบียน DNS ของคุณ
การย้ายเว็บไซต์จะรวดเร็วขึ้นหากคุณลดค่า TTL ของระเบียน DNS ของเว็บไซต์ ซึ่งจะทำให้การตั้งค่าใหม่เผยแพร่ไปยัง ISP ได้เร็วขึ้น โดยปกติ การตั้งค่า DNS จะถูกแคชไว้โดย ISP ตามการตั้งค่า Time to Live (TTL) ที่ระบุไว้ พิจารณาลดค่า TTL ให้ต่ำลง (โดยยังเป็นค่าที่สมเหตุสมผล เช่น 2-3 ชั่วโมง) อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนที่จะย้ายเพื่อรีเฟรชแคชของ DNS ให้เร็วขึ้น
ตรวจสอบการยืนยันของ Search Console
ตรวจดูว่าการยืนยันของ Search Console จะยังคงทำงานต่อไปหลังจากที่ย้ายโฮสติ้งแล้ว
หากคุณใช้วิธีการของไฟล์ HTML ในการยืนยันการเป็นเจ้าของเว็บไซต์ใน Search Console จะต้องไม่ลืมรวมไฟล์การยืนยันปัจจุบันไว้ในสำเนาเว็บไซต์ใหม่ของคุณด้วย
ในทำนองเดียวกัน หากคุณรวมแท็ก meta
หรือ Google Analytics ไว้ในเทมเพลตของระบบจัดการเนื้อหาเพื่อยืนยันการเป็นเจ้าของ ให้ตรวจสอบว่าสำเนา CMS ใหม่มีสิ่งเหล่านี้ด้วยเช่นกัน
เริ่มการย้าย
กระบวนการย้ายมีดังนี้
-
นำการบล็อกชั่วคราวของการรวบรวมข้อมูลออก ขณะสร้างสำเนาใหม่ของเว็บไซต์ เจ้าของเว็บไซต์บางรายใช้ไฟล์ robots.txt เพื่อไม่อนุญาตให้ Googlebot และ Crawler อื่นๆ ทำการ Crawl หรือใช้แท็ก
meta
noindex
หรือส่วนหัว HTTP เพื่อบล็อกการจัดทำดัชนีเนื้อหา ตรวจสอบว่าคุณนำการบล็อกดังกล่าวออกจากสำเนาใหม่ของเว็บไซต์แล้วเมื่อคุณพร้อมที่จะเริ่มย้าย - อัปเดตการตั้งค่า DNS คุณเริ่มต้นการย้ายโดยอัปเดตระเบียน DNS ให้ชี้ไปที่ผู้ให้บริการโฮสติ้งใหม่ ตรวจสอบกับผู้ให้บริการ DNS ของคุณเพื่อขอทราบวิธีการดำเนินการดังกล่าว
ตรวจสอบการเข้าชม
วิธีตรวจสอบว่าการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานเป็นไปอย่างราบรื่น
-
คอยเฝ้าดูบันทึกของเซิร์ฟเวอร์ทั้งในเซิร์ฟเวอร์เก่าและใหม่
ในขณะที่การตั้งค่า DNS เผยแพร่ออกไปและการเข้าชมเว็บไซต์มีการเคลื่อนย้ายที่ คุณจะสังเกตเห็นการลดลงของการเข้าชมที่บันทึกไว้ในเซิร์ฟเวอร์เก่าและการเพิ่มขึ้นที่สอดคล้องกันของการเข้าชมในเซิร์ฟเวอร์ใหม่ -
ใช้เครื่องมือตรวจสอบ DNS สาธารณะที่แตกต่างออกไป
ตรวจสอบว่าผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตทั่วโลกทำการอัปเดตไปเป็นการตั้งค่า DNS ใหม่ของคุณอย่างถูกต้อง -
ติดตามดูการรวบรวมข้อมูล
ติดตามดูกราฟการครอบคลุมของดัชนีใน Search Console
หมายเหตุเกี่ยวกับอัตราการ Crawl ของ Googlebot
เมื่อคุณเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานของโฮสติ้ง ถือเป็นเรื่องปกติที่จะเห็นการลดลงชั่วคราวของอัตราการ Crawl ของ Googlebot โดยทันทีหลังจากการเปิดตัว ตามด้วยการเพิ่มขึ้นอย่างคงที่ในช่วงไม่กี่วันต่อมา ซึ่งอาจเพิ่มจนถึงอัตราที่อาจจะสูงกว่าอัตราก่อนที่จะทำการย้าย
ความผันผวนนี้เกิดขึ้นเพราะเรากำหนดอัตราการ Crawl สำหรับเว็บไซต์โดยขึ้นอยู่กับหลายสัญญาณ และสัญญาณเหล่านี้มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อโฮสติ้งของคุณเปลี่ยนไป ตราบใดที่ Googlebot ไม่พบปัญหาร้ายแรงหรือทำงานช้าลงเมื่อเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานการแสดงผลใหม่ ระบบจะพยายามทำการ Crawl เว็บไซต์ของคุณโดยเร็วที่สุดตามความจำเป็นและความเป็นไปได้
ปิดโฮสติ้งเก่า
ตรวจสอบบันทึกของเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการรายเดิม และเมื่อการเข้าชมไปยังผู้ให้บริการรายเดิมมีค่าเป็นศูนย์ คุณสามารถปิดโครงสร้างพื้นฐานโฮสติ้งเก่าของคุณได้ ซึ่งจะเป็นการเสร็จสิ้นการย้ายโฮสติ้ง