แก้ปัญหาการกําหนดหน้า Canonical

ใช้เครื่องมือตรวจสอบ URL เพื่อดูว่า Google พิจารณาว่าหน้าใดเป็นหน้า Canonical แม้คุณจะระบุหน้า Canonical ไว้อย่างชัดแจ้ง แต่ Google อาจเลือกหน้าอื่นเป็นหน้า Canonical ด้วยเหตุผลต่างๆ เช่น คุณภาพของเนื้อหา ก่อนแก้ปัญหา ให้ลองพิจารณาว่า Canonical URL ที่ Google เลือกไว้เหมาะสมกว่า Canonical URL ที่คุณต้องการสำหรับผู้ใช้ที่มาจาก Google Search หรือไม่

มีเหตุผลหลายประการที่ทําให้ Canonical URL ที่ได้รับเลือกแตกต่างจาก Canonical URL ที่คุณต้องการให้ปรากฏใน Search ปัญหาที่พบบ่อยที่สุดมีดังนี้

ปัญหาที่พบบ่อยเกี่ยวกับการกำหนดหน้า Canonical

รูปแบบภาษาที่ไม่มีคำอธิบายประกอบที่แปลแล้ว

หากคุณมีหลายเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาโดยส่วนใหญ่เหมือนกันโดยแปลเป็นภาษาต่างๆ สำหรับผู้ใช้ทั่วโลก โปรดตรวจสอบว่าคุณปฏิบัติตามหลักเกณฑ์สำหรับเว็บไซต์ที่แปลเป็นภาษาท้องถิ่น เช่น หากคุณมีเว็บไซต์ที่แตกต่างกันสำหรับผู้ใช้ที่ใช้ภาษาอังกฤษในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และออสเตรเลียตามลําดับ แต่เนื้อหาเหมือนกัน การเพิ่มคําอธิบายประกอบ hreflang ลงในหน้าเว็บจะช่วยในการแสดงหน้าเว็บที่ถูกต้องสําหรับผู้ใช้ในภูมิภาคต่างๆ

องค์ประกอบ Canonical ที่ไม่ถูกต้อง

ระบบจัดการเนื้อหา (CMS) บางระบบหรือปลั๊กอิน CMS อาจใช้เทคนิคการกำหนดหน้า Canonical เพื่อชี้ไปยัง URL ที่ไม่พึงประสงค์ โปรดตรวจสอบ HTML โดยใช้เครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ของเบราว์เซอร์เพื่อดูว่าเข้าข่ายหรือไม่ หากเว็บไซต์แสดงให้เห็นค่ากำหนด Canonical URL ที่ไม่คาดคิด ซึ่งอาจจะมาจากการใช้ rel="canonical" หรือการเปลี่ยนเส้นทาง 3xx อย่างไม่ถูกต้อง โปรดติดต่อผู้ให้บริการ CMS ของคุณและรายงานข้อผิดพลาดนี้ให้ผู้ให้บริการทราบ

เซิร์ฟเวอร์ที่กำหนดค่าไม่ถูกต้อง

การกำหนดค่าโฮสติ้งอย่างไม่ถูกต้องบางอย่างอาจเป็นสาเหตุให้เกิดการเลือก URL ข้ามโดเมนโดยไม่คาดคิด เช่น
  • เซิร์ฟเวอร์อาจมีการกำหนดค่าผิดพลาดให้แสดงเนื้อหาจาก example.com เพื่อตอบสนองต่อคำขอ URL ใน other.example
  • เว็บเซิร์ฟเวอร์ 2 รายการที่ไม่เกี่ยวข้องกันอาจจะแสดงผลหน้า soft 404 ที่เหมือนกันซึ่ง Google ระบุไม่ได้ว่าเป็นหน้าข้อผิดพลาด หากคุณพบกรณีนี้ โปรดติดต่อผู้ให้บริการโฮสติ้ง

การแฮ็กที่มุ่งร้าย

การโจมตีเว็บไซต์บางครั้งทําให้เกิดโค้ดที่แสดงการเปลี่ยนเส้นทาง 3xx ของ HTTP หรือแทรกคำอธิบายประกอบ rel="canonical" link แบบข้ามโดเมนลงใน <head> ของ HTML หรือส่วนหัว HTTP ซึ่งมักชี้ไปยัง URL ที่โฮสต์เนื้อหาที่เป็นอันตรายหรือเป็นสแปม ในกรณีเหล่านี้ อัลกอริทึมของเราอาจเลือก URL ที่เป็นอันตรายหรือที่เป็นสแปมแทนที่จะเป็น URL ในเว็บไซต์ที่ถูกบุกรุก

เนื้อหาที่คัดลอกมา

เราไม่แนะนําให้ใช้เอลิเมนต์ของลิงก์ Canonical สําหรับผู้ที่ไม่ต้องการให้พาร์ทเนอร์เผยแพร่ซ้ำ เนื่องจากหน้าเว็บดังกล่าวมีความแตกต่างกันอย่างมาก วิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือให้พาร์ทเนอร์บล็อกการจัดทําดัชนีเนื้อหา สําหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูวิธีหลีกเลี่ยงการทําซ้ำบทความใน Google News ซึ่งมีคําแนะนําเกี่ยวกับการบล็อกเนื้อหาที่คัดลอกมาไม่ให้แสดงใน Google Search ด้วย

เว็บไซต์เลียนแบบ

ในบางสถานการณ์ซึ่งพบได้ไม่บ่อยนัก อัลกอริทึมของเราอาจเลือก URL จากเว็บไซต์ภายนอกที่โฮสต์เนื้อหาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากคุณ หากเชื่อว่าเว็บไซต์อื่นกำลังทำซ้ำเนื้อหาของคุณซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายลิขสิทธิ์ คุณอาจติดต่อโฮสต์ของเว็บไซต์เพื่อขอให้นำออกได้ นอกจากนี้ คุณขอให้ Google นำหน้าที่ละเมิดออกจากผลการค้นหาได้โดยยื่นคำขอภายใต้ Digital Millennium Copyright Act

โปรดทราบว่าหาก Canonical URL อยู่ในพร็อพเพอร์ตี้ Search Console ที่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของ คุณจะไม่เห็นปริมาณการเข้าชมสำหรับหน้าเว็บที่ซ้ำกัน