สร้างข้อมูลที่มีโครงสร้างด้วย JavaScript
เว็บไซต์ในปัจจุบันใช้ JavaScript เพื่อแสดงเนื้อหาแบบไดนามิกจำนวนมาก มีบางอย่างที่คุณต้องระวังเมื่อใช้ JavaScript ในการสร้างข้อมูลที่มีโครงสร้างในเว็บไซต์ คู่มือนี้จะกล่าวถึงแนวทางปฏิบัติแนะนำและกลยุทธ์ในการนำไปใช้งาน หากคุณเพิ่งใช้ข้อมูลที่มีโครงสร้างเป็นครั้งแรก โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการทำงานของข้อมูลที่มีโครงสร้าง
การสร้างข้อมูลที่มีโครงสร้างด้วย JavaScript นั้นมีหลายวิธีด้วยกัน แต่วิธีที่ใช้กันโดยทั่วไปมีดังนี้
ใช้ Google Tag Manager เพื่อสร้าง JSON-LD แบบไดนามิก
Google Tag Manager เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้คุณจัดการแท็กในเว็บไซต์ได้โดยไม่ต้องแก้ไขโค้ด ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อสร้างข้อมูลที่มีโครงสร้างด้วย Google Tag Manager
- ตั้งค่าและติดตั้ง Google Tag Manager ในเว็บไซต์
- เพิ่มแท็ก HTML ที่กำหนดเองใหม่ในคอนเทนเนอร์
- วางบล็อกข้อมูลที่มีโครงสร้างที่ต้องการในเนื้อหาแท็ก
- ติดตั้งคอนเทนเนอร์ตามที่แสดงในส่วนติดตั้ง Google Tag Manager ของเมนูผู้ดูแลระบบของคอนเทนเนอร์
- นำคอนเทนเนอร์ไปใช้จริงในอินเทอร์เฟซของ Google Tag Manager เพื่อเพิ่มแท็กลงในเว็บไซต์
- ทดสอบการใช้งาน
ใช้ตัวแปรใน Google Tag Manager
Google Tag Manager (GTM) รองรับตัวแปรเพื่อใช้ข้อมูลในหน้าเป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลที่มีโครงสร้าง ใช้ตัวแปรเพื่อดึงข้อมูลที่มีโครงสร้างจากหน้าแทนการทำซ้ำข้อมูลใน GTM เพราะการทำซ้ำข้อมูลใน GTM จะทำให้เนื้อหาของหน้าและข้อมูลที่มีโครงสร้างที่แทรกเข้ามาทาง GTM มีโอกาสไม่ตรงกันมากขึ้น
เช่น คุณอาจสร้างบล็อก JSON-LD สำหรับสูตรอาหารแบบไดนามิกซึ่งใช้ชื่อหน้าเป็นชื่อสูตรอาหาร โดยการสร้างตัวแปรที่กำหนดเองชื่อ recipe_name
function() { return document.title; }
จากนั้นจึงใช้ {{recipe_name}}
ใน HTML ของแท็กที่กำหนดเอง
เราขอแนะนำให้สร้างตัวแปรเพื่อรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดจากหน้าที่ใช้ตัวแปร
ลองดูตัวอย่างเนื้อหาแท็ก HTML ที่กำหนดเอง
<script type="application/ld+json"> { "@context": "https://schema.org/", "@type": "Recipe", "name": "{{recipe_name}}", "image": [ "{{recipe_image}}" ], "author": { "@type": "Person", "name": "{{recipe_author}}" } } </script>
สร้างข้อมูลที่มีโครงสร้างด้วย JavaScript ที่กำหนดเอง
คุณสร้างข้อมูลที่มีโครงสร้างได้อีก 1 วิธี คือการใช้ JavaScript เพื่อสร้างข้อมูลที่มีโครงสร้างทั้งหมด หรือใส่ข้อมูลเพิ่มเติมในข้อมูลที่มีโครงสร้างซึ่งแสดงผลฝั่งเซิร์ฟเวอร์ ไม่ว่าคุณจะเลือกวิธีใด Google Search ก็เข้าใจและประมวลผลข้อมูลที่มีโครงสร้างซึ่งมีอยู่ใน DOM เมื่อแสดงผลหน้าได้ โปรดอ่านคู่มือพื้นฐานเกี่ยวกับ JavaScript สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Google Search ประมวลผล JavaScript
ลองดูตัวอย่างของข้อมูลที่มีโครงสร้างซึ่งสร้างด้วย JavaScript ต่อไปนี้
- เลือกประเภทข้อมูลที่มีโครงสร้างที่คุณสนใจ
- แก้ไข HTML ของเว็บไซต์ให้มีข้อมูลโค้ด JavaScript ตามตัวอย่างต่อไปนี้ (ดูเอกสารประกอบจาก CMS หรือผู้ให้บริการโฮสติ้ง หรือสอบถามนักพัฒนาซอฟต์แวร์)
fetch('https://api.example.com/recipes/123') .then(response => response.text()) .then(structuredDataText => { const script = document.createElement('script'); script.setAttribute('type', 'application/ld+json'); script.textContent = structuredDataText; document.head.appendChild(script); });
- ทดสอบการใช้งานด้วยการทดสอบผลการค้นหาที่เป็นสื่อสมบูรณ์
ใช้การแสดงผลฝั่งเซิร์ฟเวอร์
หากใช้การแสดงผลฝั่งเซิร์ฟเวอร์ คุณจะรวมข้อมูลที่มีโครงสร้างที่ต้องการไว้ในผลที่แสดงได้ด้วย ดูวิธีสร้าง JSON-LD สำหรับประเภท Structured Data ที่สนใจได้จากเอกสารประกอบของเฟรมเวิร์กที่คุณใช้
ทดสอบการใช้งาน
ทดสอบการใช้งานเพื่อให้ Google Search รวบรวมข้อมูลและจัดทำดัชนีข้อมูลที่มีโครงสร้างได้
- เปิดการทดสอบผลการค้นหาที่เป็นสื่อสมบูรณ์
- ป้อน URL ที่ต้องการทดสอบ
- คลิกทดสอบ URL
สำเร็จ: หากคุณทำทุกอย่างถูกต้องและมีการรองรับประเภท Structured Data ในเครื่องมือ คุณจะเห็นข้อความ "หน้ามีสิทธิ์แสดงผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดีย"
หากการทดสอบผลการค้นหาที่เป็นสื่อสมบูรณ์ไม่รองรับประเภทข้อมูลที่มีโครงสร้างที่คุณทดสอบ ให้ตรวจสอบ HTML ที่แสดงผล หาก HTML ที่แสดงมีข้อมูลที่มีโครงสร้าง Google Search จะประมวลผลข้อมูลนั้นได้ลองอีกครั้ง: หากคุณเห็นข้อผิดพลาดหรือคำเตือน อาจเป็นเพราะมีข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์หรือไม่มีพร็อพเพอร์ตี้บางอย่าง อ่านเอกสารประกอบเกี่ยวกับประเภทข้อมูลที่มีโครงสร้างที่คุณใช้และตรวจสอบว่าได้เพิ่มพร็อพเพอร์ตี้ครบทั้งหมดแล้ว หากยังเกิดปัญหาขึ้นอยู่ โปรดอ่านคำแนะนำในการแก้ไขปัญหา JavaScript ที่เกี่ยวข้องกับการค้นหา