การเปรียบเทียบ OptimizeTours กับ BatchOptimizeTours

Route Optimization API มีวิธีการแสดง 2 วิธีดังนี้

  • OptimizeTours เป็นเมธอดแบบซิงโครนัสซึ่งจะแสดงผลเส้นทางที่เพิ่มประสิทธิภาพแล้วใน การตอบสนองต่อ OptimizeToursRequest ลูกค้าต้องรักษา เชื่อมต่อกับ Route Optimization API จนกว่าคำขอจะได้รับการดำเนินการ OptimizeToursResponse หรือแสดงข้อผิดพลาด
  • BatchOptimizeTours เป็นเมธอดแบบอะซิงโครนัสซึ่งยอมรับ URI สำหรับ 1 รายการ OptimizeToursRequest ขึ้นไป และ OptimizeToursResponse ที่เกี่ยวข้อง ข้อความที่แสดงชื่อทรัพยากรของ Long Running Operation (LRO) (REST, gRPC) ที่ใช้ตรวจสอบความสมบูรณ์แบบกลุ่ม OptimizeToursRequest จะประมวลผลในพื้นหลัง เพื่อให้ลูกค้าใช้ การเชื่อมต่อแบบเปิดไปยัง Route Optimization API มีระยะเวลานานพอที่จะส่งได้ BatchOptimizeToursRequest หรือโทรไปที่ GetOperation เพื่อตรวจสอบ LRO สถานะ BatchOptimizeTours อ่านคำขอจาก และเขียนคำตอบไปยัง Google Cloud Storage

กรณีการใช้งาน

OptimizeTours สะดวกสำหรับการตอบคำขอขนาดเล็กและง่าย หรือ คำขอที่มีเวลาแก้ปัญหาเพียงไม่กี่นาที ดูแลรักษาให้คงอยู่ได้นาน เชื่อมต่อกับ Route Optimization API จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการหยุดชะงักก่อน ค่าคำตอบได้

BatchOptimizeTours สามารถจัดการคำขอและคำขอขนาดใหญ่ด้วยการแก้ปัญหาที่นานขึ้น เนื่องจากไม่จำเป็นต้องใช้การเชื่อมต่อนานกับ Route API การเพิ่มประสิทธิภาพ

การดำเนินการที่ใช้เวลานาน

ระบบจะอ่าน LRO จาก Route Optimization API โดยใช้เมธอด GetOperation เพื่อทำสิ่งต่อไปนี้ ตรวจสอบสถานะ ความสำเร็จของกลุ่ม LRO มีพร็อพเพอร์ตี้ done ที่ ระบุว่าการประมวลผลกลุ่มทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์หรือไม่ และ error ที่รายงานข้อผิดพลาดที่พบระหว่างการประมวลผล หาก done เป็นจริงและ ไม่มี error อยู่ แสดงว่ากลุ่มดำเนินการสำเร็จแล้ว การมี error บ่งบอกว่าประมวลผลกลุ่มบางส่วนหรือทั้งหมดไม่สำเร็จ

วงจรทั่วไปของคำขอ BatchOptimizeTours มีดังนี้

  1. ส่ง BatchOptimizeToursRequest ไปยัง Route Optimization API ซึ่ง แสดงผลชื่อทรัพยากรของ LRO
  2. แบบสำรวจ GetOperation ที่มีชื่อทรัพยากร LRO ที่แสดงผลจนถึง done หรือ พร็อพเพอร์ตี้ error รายการจะปรากฏในการตอบกลับ LRO
  3. หาก done เป็นจริงและไม่มีข้อผิดพลาด โปรดอ่าน OptimizeToursResponses จาก URI ของ Google Cloud Storage ที่ระบุไว้ใน BatchOptimizeTours อีกครั้ง หากมี error ปรากฏอยู่ ให้ตรวจสอบข้อผิดพลาดและอัปเดต OptimizeToursRequestตามข้อมูลดังกล่าวใน Google Cloud Storage แล้วลองอีกครั้งในชื่อ เหมาะสมตามข้อผิดพลาดที่พบ

คุณส่งคำขอเกี่ยวกับ OptimizeTours และ BatchOptimizeTours ได้หลายวิธี จากบรรทัดคำสั่งหรือการใช้ไลบรารีของไคลเอ็นต์ก็ได้

ถัดไป: ส่งคำขอ API