Places API (ใหม่) ให้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นและรูปแบบการกำหนดราคาใหม่ ทำให้การอัปเดตแอปที่ใช้ Places API คุ้มค่าคุ้มค่า ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปรียบเทียบฟีเจอร์ต่างๆ ได้ที่เลือก API ของคุณ
ใช้คู่มือนี้เพื่อทำความเข้าใจความแตกต่างที่สำคัญใน Places API (ใหม่) เมื่อเทียบกับ Places API พร้อมด้วยวิธีจัดการการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็น
เปิดใช้ Places API (ใหม่)
หากต้องการใช้ฟีเจอร์ของ Places API (ใหม่) คุณต้องเปิดใช้ Places API (ใหม่) ในโปรเจ็กต์ Google Cloud ของคุณก่อน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ในตั้งค่าโปรเจ็กต์ Google Cloud
จากนั้นคุณต้องตรวจสอบว่าได้เพิ่ม Places API (ใหม่) ลงในคีย์ API ที่แอปใช้แล้ว ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ใช้คีย์ API
การเปลี่ยนแปลงทั่วไป
การเปลี่ยนแปลงทั่วไปบางอย่างที่ใช้กับ API หลายรายการมีดังนี้
- API ใหม่ทั้งหมดรองรับทั้งคีย์ API และโทเค็น OAuth เป็นกลไกการตรวจสอบสิทธิ์
- รองรับเฉพาะ JSON เป็นรูปแบบการตอบกลับ
- รายละเอียดสถานที่ (ใหม่), การค้นหาใกล้เคียง (ใหม่) และการค้นหาข้อความ (ใหม่) กำหนดให้มีการมาสก์ช่องเพื่อระบุช่องที่คุณต้องการให้แสดงผลในคำตอบ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ใน FieldMask
- ตอนนี้ API การค้นหาใกล้เคียง (ใหม่) และ การค้นหาข้อความ (ใหม่) จะแสดงรายละเอียดสถานที่ทั้งหมดเพื่อให้ตรงกับรายละเอียดสถานที่ที่แสดงโดยรายละเอียดสถานที่ (ใหม่)
- รูปแบบการตอบกลับ JSON สำหรับ API รายละเอียดสถานที่ (ใหม่), การค้นหาใกล้เคียง (ใหม่) และ Text Search (ใหม่) มีการเปลี่ยนแปลงจากรูปแบบของ API ที่มีอยู่ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ย้ายข้อมูลการตอบกลับของ Places API
การเปลี่ยนแปลงเฉพาะ API
ส่วนนี้ประกอบด้วยคำแนะนำในการย้ายข้อมูลต่อไปนี้สำหรับ API แต่ละรายการ