หน้านี้ได้รับการแปลโดย Cloud Translation API

Events

API ของปฏิทินมีทรัพยากรของกิจกรรมที่แตกต่างกัน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ในเกี่ยวกับกิจกรรม

ดูรายการวิธีการสำหรับแหล่งข้อมูลนี้ที่ส่วนท้ายของหน้านี้

การนำเสนอทรัพยากร

{
  "kind": "calendar#event",
  "etag": etag,
  "id": string,
  "status": string,
  "htmlLink": string,
  "created": datetime,
  "updated": datetime,
  "summary": string,
  "description": string,
  "location": string,
  "colorId": string,
  "creator": {
    "id": string,
    "email": string,
    "displayName": string,
    "self": boolean
  },
  "organizer": {
    "id": string,
    "email": string,
    "displayName": string,
    "self": boolean
  },
  "start": {
    "date": date,
    "dateTime": datetime,
    "timeZone": string
  },
  "end": {
    "date": date,
    "dateTime": datetime,
    "timeZone": string
  },
  "endTimeUnspecified": boolean,
  "recurrence": [
    string
  ],
  "recurringEventId": string,
  "originalStartTime": {
    "date": date,
    "dateTime": datetime,
    "timeZone": string
  },
  "transparency": string,
  "visibility": string,
  "iCalUID": string,
  "sequence": integer,
  "attendees": [
    {
      "id": string,
      "email": string,
      "displayName": string,
      "organizer": boolean,
      "self": boolean,
      "resource": boolean,
      "optional": boolean,
      "responseStatus": string,
      "comment": string,
      "additionalGuests": integer
    }
  ],
  "attendeesOmitted": boolean,
  "extendedProperties": {
    "private": {
      (key): string
    },
    "shared": {
      (key): string
    }
  },
  "hangoutLink": string,
  "conferenceData": {
    "createRequest": {
      "requestId": string,
      "conferenceSolutionKey": {
        "type": string
      },
      "status": {
        "statusCode": string
      }
    },
    "entryPoints": [
      {
        "entryPointType": string,
        "uri": string,
        "label": string,
        "pin": string,
        "accessCode": string,
        "meetingCode": string,
        "passcode": string,
        "password": string
      }
    ],
    "conferenceSolution": {
      "key": {
        "type": string
      },
      "name": string,
      "iconUri": string
    },
    "conferenceId": string,
    "signature": string,
    "notes": string,
  },
  "gadget": {
    "type": string,
    "title": string,
    "link": string,
    "iconLink": string,
    "width": integer,
    "height": integer,
    "display": string,
    "preferences": {
      (key): string
    }
  },
  "anyoneCanAddSelf": boolean,
  "guestsCanInviteOthers": boolean,
  "guestsCanModify": boolean,
  "guestsCanSeeOtherGuests": boolean,
  "privateCopy": boolean,
  "locked": boolean,
  "reminders": {
    "useDefault": boolean,
    "overrides": [
      {
        "method": string,
        "minutes": integer
      }
    ]
  },
  "source": {
    "url": string,
    "title": string
  },
  "workingLocationProperties": {
    "type": string,
    "homeOffice": (value),
    "customLocation": {
      "label": string
    },
    "officeLocation": {
      "buildingId": string,
      "floorId": string,
      "floorSectionId": string,
      "deskId": string,
      "label": string
    }
  },
  "outOfOfficeProperties": {
    "autoDeclineMode": string,
    "declineMessage": string
  },
  "focusTimeProperties": {
    "autoDeclineMode": string,
    "declineMessage": string,
    "chatStatus": string
  },
  "attachments": [
    {
      "fileUrl": string,
      "title": string,
      "mimeType": string,
      "iconLink": string,
      "fileId": string
    }
  ],
  "eventType": string
}

ชื่อพร็อพเพอร์ตี้	ค่า	คำอธิบาย	Notes
`anyoneCanAddSelf`	`boolean`	ทุกคนสามารถเชิญตนเองเข้าร่วมกิจกรรมได้หรือไม่ (เลิกใช้งานแล้ว) ไม่บังคับ ทั้งนี้ ระบบตั้งค่าเริ่มต้นไว้เป็น "เท็จ"	เขียนได้
`attachments[]`	`list`	ไฟล์แนบของกิจกรรม หากต้องการแก้ไขไฟล์แนบ ควรตั้งค่าพารามิเตอร์คำขอ `supportsAttachments` เป็น `true` คุณสามารถแนบไฟล์ได้สูงสุด 25 ไฟล์ต่อกิจกรรม
`attachments[].fileId`	`string`	รหัสของไฟล์แนบ อ่านอย่างเดียว สำหรับไฟล์ Google ไดรฟ์ นี่คือรหัสของรายการทรัพยากร `Files` ที่เกี่ยวข้องใน API ไดรฟ์
`attachments[].fileUrl`	`string`	URL ของไฟล์แนบ สำหรับการเพิ่มไฟล์แนบของ Google ไดรฟ์ ให้ใช้รูปแบบเดียวกับในพร็อพเพอร์ตี้ `alternateLink` ของทรัพยากร `Files` ใน Drive API ต้องระบุเมื่อเพิ่มไฟล์แนบ	เขียนได้
`attachments[].iconLink`	`string`	URL ของไอคอนของไฟล์แนบ ช่องนี้สามารถแก้ไขได้สำหรับไฟล์แนบที่กำหนดเองของบุคคลที่สามเท่านั้น
`attachments[].mimeType`	`string`	ประเภทสื่อบนอินเทอร์เน็ต (ประเภท MIME) ของไฟล์แนบ
`attachments[].title`	`string`	ชื่อไฟล์แนบ
`attendeesOmitted`	`boolean`	มีการละเว้นผู้เข้าร่วมจากตัวแทนของกิจกรรมหรือไม่ เมื่อเรียกเหตุการณ์ เหตุการณ์นี้อาจเกิดจากข้อจำกัดที่ระบุโดยพารามิเตอร์การค้นหา `maxAttendee` เมื่ออัปเดตกิจกรรม สามารถใช้เพื่ออัปเดตคำตอบของผู้เข้าร่วมเท่านั้น ไม่บังคับ ทั้งนี้ ระบบตั้งค่าเริ่มต้นไว้เป็น "เท็จ"	เขียนได้
`attendees[]`	`list`	ผู้เข้าร่วมกิจกรรม โปรดดูคู่มือกิจกรรมที่มีผู้เข้าร่วมเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำหนดเวลากิจกรรมกับผู้ใช้ปฏิทินคนอื่นๆ บัญชีบริการต้องใช้การมอบสิทธิ์ทั่วทั้งโดเมนเพื่อเติมข้อมูลรายชื่อผู้เข้าร่วม	เขียนได้
`attendees[].additionalGuests`	`integer`	จำนวนแขกที่เข้าพักเพิ่มเติม ไม่บังคับ ค่าเริ่มต้นคือ 0	เขียนได้
`attendees[].comment`	`string`	ความคิดเห็นตอบกลับของผู้เข้าร่วม ไม่บังคับ	เขียนได้
`attendees[].displayName`	`string`	ชื่อผู้เข้าร่วม (หากมี) ไม่บังคับ	เขียนได้
`attendees[].email`	`string`	อีเมลของผู้เข้าร่วม (หากมี) ต้องมีช่องนี้เมื่อเพิ่มผู้เข้าร่วม ต้องเป็นอีเมลที่ถูกต้องตาม RFC5322 ต้องระบุเมื่อเพิ่มผู้เข้าร่วม	เขียนได้
`attendees[].id`	`string`	รหัสโปรไฟล์ของผู้เข้าร่วม (หากมี)
`attendees[].optional`	`boolean`	ผู้เข้าร่วมรายนี้เป็นผู้เข้าร่วมที่ไม่บังคับใช่หรือไม่ ไม่บังคับ ทั้งนี้ ระบบตั้งค่าเริ่มต้นไว้เป็น "เท็จ"	เขียนได้
`attendees[].organizer`	`boolean`	ผู้เข้าร่วมเป็นผู้จัดกิจกรรมหรือไม่ อ่านอย่างเดียว ทั้งนี้ ระบบตั้งค่าเริ่มต้นไว้เป็น "เท็จ"
`attendees[].resource`	`boolean`	ผู้เข้าร่วมเป็นทรัพยากรหรือไม่ สามารถตั้งค่าได้เมื่อมีการเพิ่มผู้เข้าร่วมในกิจกรรมเป็นครั้งแรกเท่านั้น ระบบจะไม่สนใจการแก้ไขหลังจากนั้น ไม่บังคับ ทั้งนี้ ระบบตั้งค่าเริ่มต้นไว้เป็น "เท็จ"	เขียนได้
`attendees[].responseStatus`	`string`	สถานะการตอบกลับของผู้เข้าร่วม ค่าที่เป็นไปได้มีดังนี้: "`needsAction`" - ผู้เข้าร่วมยังไม่ตอบรับคำเชิญ (แนะนำสำหรับกิจกรรมใหม่) "`declined`" - ผู้เข้าร่วมปฏิเสธคำเชิญ "`tentative`" - ผู้เข้าร่วมได้ตอบรับข้อความเชิญคร่าวๆ แล้ว "`accepted`" - ผู้เข้าร่วมตอบรับคำเชิญแล้ว คำเตือน: หากคุณเพิ่มกิจกรรมโดยใช้ค่า `declined`, `tentative` หรือ `accepted` ผู้เข้าร่วมที่ตั้งค่า "เพิ่มคำเชิญไปยังปฏิทินของฉัน" เป็น "เมื่อฉันตอบรับคำเชิญในอีเมล" จะไม่เห็นกิจกรรมในปฏิทินของผู้เข้าร่วม เว้นแต่ว่าจะเลือกเปลี่ยนการตอบกลับคำเชิญในอีเมลคำเชิญเข้าร่วมกิจกรรม	เขียนได้
`attendees[].self`	`boolean`	รายการนี้แสดงถึงปฏิทินที่สำเนาของกิจกรรมนี้ปรากฏหรือไม่ อ่านอย่างเดียว ทั้งนี้ ระบบตั้งค่าเริ่มต้นไว้เป็น "เท็จ"
`colorId`	`string`	สีของกิจกรรม นี่คือรหัสที่อ้างถึงรายการในส่วน `event` ของคำจำกัดความสี (ดู ปลายทางสี) ไม่บังคับ	เขียนได้
`conferenceData`	`nested object`	ข้อมูลเกี่ยวกับการประชุม เช่น รายละเอียดการประชุมของ Google Meet หากต้องการสร้างรายละเอียดการประชุมใหม่ ให้ใช้ช่อง `createRequest` หากต้องการคงการเปลี่ยนแปลงไว้ อย่าลืมตั้งค่าพารามิเตอร์คำขอ `conferenceDataVersion` เป็น `1` สำหรับคำขอแก้ไขเหตุการณ์ทั้งหมด	เขียนได้
`conferenceData.conferenceId`	`string`	รหัสการประชุม นักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถใช้เพื่อติดตามการประชุมได้ ไม่ควรแสดงต่อผู้ใช้ ค่ารหัสจะมีรูปแบบแตกต่างกันไปสำหรับโซลูชันการประชุมแต่ละประเภท ดังนี้ `eventHangout`: ไม่ได้ตั้งค่ารหัส (การประชุมประเภทนี้เลิกใช้งานแล้ว) `eventNamedHangout`: ID คือชื่อของ Hangouts (การประชุมประเภทนี้เลิกใช้งานแล้ว) `hangoutsMeet`: ID คือรหัสการประชุม 10 ตัวอักษร เช่น `aaa-bbbb-ccc` `addOn`: ผู้ให้บริการบุคคลที่สามเป็นผู้กำหนดรหัส (ไม่บังคับ)
`conferenceData.conferenceSolution`	`nested object`	โซลูชันการประชุมอย่างเช่น Google Meet ยกเลิกการตั้งค่าการประชุมที่มีคำขอสร้างไม่สำเร็จ ต้องระบุ `conferenceSolution` และ `entryPoint` หรือ `createRequest` อย่างน้อย 1 รายการ
`conferenceData.conferenceSolution.iconUri`	`string`	ไอคอนที่ผู้ใช้มองเห็นได้สำหรับโซลูชันนี้
`conferenceData.conferenceSolution.key`	`nested object`	คีย์ที่สามารถระบุโซลูชันการประชุมสำหรับกิจกรรมนี้โดยไม่ซ้ำกัน
`conferenceData.conferenceSolution.key.type`	`string`	ประเภทโซลูชันการประชุม หากลูกค้าพบประเภทที่ไม่คุ้นเคยหรือว่างเปล่า ลูกค้าก็จะยังแสดงจุดเข้าได้ แต่ไม่ควรอนุญาตให้ทำการแก้ไข ค่าที่เป็นไปได้มีดังนี้ `"eventHangout"` สำหรับ Hangouts สำหรับผู้ใช้ทั่วไป (เลิกใช้งานแล้ว กิจกรรมที่มีอยู่อาจแสดงประเภทโซลูชันการประชุมนี้ แต่สร้างการประชุมใหม่ไม่ได้) `"eventNamedHangout"` สำหรับ Hangouts แบบคลาสสิกสำหรับผู้ใช้ Google Workspace (เลิกใช้งานแล้ว กิจกรรมที่มีอยู่อาจแสดงประเภทโซลูชันการประชุมนี้ แต่จะสร้างการประชุมใหม่ไม่ได้) `"hangoutsMeet"` สำหรับ Google Meet (http://meet.google.com) `"addOn"` สำหรับผู้ให้บริการการประชุม 3P
`conferenceData.conferenceSolution.name`	`string`	ชื่อโซลูชันที่ผู้ใช้มองเห็น ไม่ได้แปล
`conferenceData.createRequest`	`nested object`	คำขอสร้างการประชุมใหม่และแนบไว้ในกิจกรรม ข้อมูลจะสร้างขึ้นแบบไม่พร้อมกัน หากต้องการตรวจสอบว่ามีข้อมูลปรากฏอยู่หรือไม่ ให้ตรวจสอบช่อง `status` ต้องระบุ `conferenceSolution` และ `entryPoint` หรือ `createRequest` อย่างน้อย 1 รายการ
`conferenceData.createRequest.conferenceSolutionKey`	`nested object`	โซลูชันการประชุม เช่น Hangouts หรือ Google Meet
`conferenceData.createRequest.conferenceSolutionKey.type`	`string`	ประเภทโซลูชันการประชุม หากลูกค้าพบประเภทที่ไม่คุ้นเคยหรือว่างเปล่า ลูกค้าก็จะยังแสดงจุดเข้าได้ แต่ไม่ควรอนุญาตให้ทำการแก้ไข ค่าที่เป็นไปได้มีดังนี้ `"eventHangout"` สำหรับ Hangouts สำหรับผู้ใช้ทั่วไป (เลิกใช้งานแล้ว กิจกรรมที่มีอยู่อาจแสดงประเภทโซลูชันการประชุมนี้ แต่สร้างการประชุมใหม่ไม่ได้) `"eventNamedHangout"` สำหรับ Hangouts แบบคลาสสิกสำหรับผู้ใช้ Google Workspace (เลิกใช้งานแล้ว กิจกรรมที่มีอยู่อาจแสดงประเภทโซลูชันการประชุมนี้ แต่จะสร้างการประชุมใหม่ไม่ได้) `"hangoutsMeet"` สำหรับ Google Meet (http://meet.google.com) `"addOn"` สำหรับผู้ให้บริการการประชุม 3P
`conferenceData.createRequest.requestId`	`string`	รหัสที่ไม่ซ้ำกันที่ลูกค้าสร้างขึ้นสำหรับคำขอนี้ ลูกค้าควรสร้างรหัสนี้ใหม่สำหรับคำขอใหม่ทุกรายการ หากรหัสที่ระบุตรงกับคำขอก่อนหน้า ระบบจะไม่สนใจคำขอ
`conferenceData.createRequest.status`	`nested object`	สถานะของคำขอสร้างการประชุม
`conferenceData.createRequest.status.statusCode`	`string`	สถานะปัจจุบันของคำขอสร้างการประชุม อ่านอย่างเดียว ค่าที่เป็นไปได้มีดังนี้ `"pending"`: คำขอสร้างการประชุมยังอยู่ระหว่างดำเนินการ `"success"`: คำขอสร้างการประชุมสำเร็จแล้ว ระบบจะป้อนข้อมูลจุดแรกเข้า `"failure"`: คำขอสร้างการประชุมล้มเหลว ไม่มีจุดแรกเข้า
`conferenceData.entryPoints[]`	`list`	ข้อมูลเกี่ยวกับจุดเข้าถึงการประชุมแต่ละรายการ เช่น URL หรือหมายเลขโทรศัพท์ โดยทุกรายการต้องอยู่ในการประชุมเดียวกัน ต้องระบุ `conferenceSolution` และ `entryPoint` หรือ `createRequest` อย่างน้อย 1 รายการ
`conferenceData.entryPoints[].accessCode`	`string`	รหัสการเข้าถึงเพื่อเข้าถึงการประชุม มีความยาวได้สูงสุดไม่เกิน 128 อักขระ เมื่อสร้างข้อมูลการประชุมใหม่ ให้เติมเฉพาะช่องย่อยของ {`meetingCode`, `accessCode`, `passcode`, `password`, `pin`} ที่ตรงกับคำศัพท์ที่ผู้ให้บริการการประชุมใช้ ควรแสดงเฉพาะฟิลด์ที่ป้อนข้อมูลเท่านั้น ไม่บังคับ
`conferenceData.entryPoints[].entryPointType`	`string`	ประเภทของจุดแรกเข้าของการประชุม ค่าที่เป็นไปได้มีดังนี้ `"video"` - การเข้าร่วมการประชุมผ่าน HTTP การประชุมอาจมีจุดแรกเข้า `video` 0 หรือ 1 จุด `"phone"` - เข้าร่วมการประชุมด้วยการกดหมายเลขโทรศัพท์ การประชุมอาจมีจุดแรกเข้าของ `phone` ตั้งแต่ 0 จุดขึ้นไป `"sip"` - กำลังเข้าร่วมการประชุมผ่าน SIP การประชุมอาจมีจุดแรกเข้า `sip` 0 หรือ 1 จุด `"more"` - วิธีการเข้าร่วมการประชุมเพิ่มเติม เช่น หมายเลขโทรศัพท์เพิ่มเติม การประชุมอาจมีจุดแรกเข้า `more` 0 หรือ 1 จุด การประชุมที่มีจุดแรกเข้าเพียง `more` ไม่ใช่การประชุมที่ถูกต้อง
`conferenceData.entryPoints[].label`	`string`	ป้ายกำกับสำหรับ URI ปรากฏแก่ผู้ใช้ปลายทาง ไม่ได้แปล มีความยาวได้สูงสุดไม่เกิน 512 อักขระ ตัวอย่าง สําหรับ `video`: meet.google.com/aaa-bbbb-ccc สำหรับ `phone`: +1 123 268 2601 สำหรับ `sip`: 12345678@altostrat.com สำหรับ `more`: ไม่ควรเติม ไม่บังคับ
`conferenceData.entryPoints[].meetingCode`	`string`	รหัสการประชุมเพื่อเข้าถึงการประชุม มีความยาวได้สูงสุดไม่เกิน 128 อักขระ เมื่อสร้างข้อมูลการประชุมใหม่ ให้เติมเฉพาะช่องย่อยของ {`meetingCode`, `accessCode`, `passcode`, `password`, `pin`} ที่ตรงกับคำศัพท์ที่ผู้ให้บริการการประชุมใช้ ควรแสดงเฉพาะฟิลด์ที่ป้อนข้อมูลเท่านั้น ไม่บังคับ
`conferenceData.entryPoints[].passcode`	`string`	รหัสผ่านในการเข้าถึงการประชุม มีความยาวได้สูงสุดไม่เกิน 128 อักขระ เมื่อสร้างข้อมูลการประชุมใหม่ ให้เติมเฉพาะช่องย่อยของ {`meetingCode`, `accessCode`, `passcode`, `password`, `pin`} ที่ตรงกับคำศัพท์ที่ผู้ให้บริการการประชุมใช้ ควรแสดงเฉพาะฟิลด์ที่ป้อนข้อมูลเท่านั้น
`conferenceData.entryPoints[].password`	`string`	รหัสผ่านในการเข้าถึงการประชุม มีความยาวได้สูงสุดไม่เกิน 128 อักขระ เมื่อสร้างข้อมูลการประชุมใหม่ ให้เติมเฉพาะช่องย่อยของ {`meetingCode`, `accessCode`, `passcode`, `password`, `pin`} ที่ตรงกับคำศัพท์ที่ผู้ให้บริการการประชุมใช้ ควรแสดงเฉพาะฟิลด์ที่ป้อนข้อมูลเท่านั้น ไม่บังคับ
`conferenceData.entryPoints[].pin`	`string`	PIN สำหรับเข้าถึงการประชุม มีความยาวได้สูงสุดไม่เกิน 128 อักขระ เมื่อสร้างข้อมูลการประชุมใหม่ ให้เติมเฉพาะช่องย่อยของ {`meetingCode`, `accessCode`, `passcode`, `password`, `pin`} ที่ตรงกับคำศัพท์ที่ผู้ให้บริการการประชุมใช้ ควรแสดงเฉพาะฟิลด์ที่ป้อนข้อมูลเท่านั้น ไม่บังคับ
`conferenceData.entryPoints[].uri`	`string`	URI ของจุดแรกเข้า มีความยาวได้สูงสุดไม่เกิน 1,300 อักขระ รูปแบบ: ต้องมีสคีมา `video`, `http:` หรือ `https:` สำหรับ `phone` ต้องมีสคีมา `tel:` รายการ URI ควรมีลำดับการโทรทั้งหมด (เช่น tel:+12345678900,,,123456789;1234) สำหรับ `sip` ต้องมีสคีมา `sip:` เช่น sip:12345678@myprovider.com ต้องมีสคีมา `more`, `http:` หรือ `https:`
`conferenceData.notes`	`string`	หมายเหตุเพิ่มเติม (เช่น วิธีการจากผู้ดูแลระบบโดเมน ประกาศทางกฎหมาย) ที่จะแสดงให้ผู้ใช้เห็น มี HTML ได้ มีความยาวได้สูงสุดไม่เกิน 2,048 อักขระ ไม่บังคับ
`conferenceData.signature`	`string`	ลายเซ็นของข้อมูลการประชุม สร้างขึ้นในฝั่งเซิร์ฟเวอร์ ยกเลิกการตั้งค่าการประชุมที่มีคำขอสร้างไม่สำเร็จ ไม่บังคับสำหรับการประชุมที่มีคำขอสร้างที่รออนุมัติ
`created`	`datetime`	เวลาที่สร้างเหตุการณ์ (เป็นการประทับเวลา RFC3339) อ่านอย่างเดียว
`creator`	`object`	ผู้สร้างกิจกรรม อ่านอย่างเดียว
`creator.displayName`	`string`	ชื่อของครีเอเตอร์ (หากมี)
`creator.email`	`string`	อีเมลของครีเอเตอร์ (หากมี)
`creator.id`	`string`	รหัสโปรไฟล์ของครีเอเตอร์ หากมี
`creator.self`	`boolean`	ผู้สร้างสอดคล้องกับปฏิทินที่สำเนาของกิจกรรมนี้ปรากฏหรือไม่ อ่านอย่างเดียว ทั้งนี้ ระบบตั้งค่าเริ่มต้นไว้เป็น "เท็จ"
`description`	`string`	คำอธิบายกิจกรรม มี HTML ได้ ไม่บังคับ	เขียนได้
`end`	`nested object`	เวลาสิ้นสุด (เฉพาะตัว) ของกิจกรรม สำหรับกิจกรรมที่เกิดซ้ำ เวลานี้จะเป็นการสิ้นสุดของอินสแตนซ์แรก
`end.date`	`date`	วันที่ในรูปแบบ "yyyy-mm-dd" หากเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นทั้งวัน	เขียนได้
`end.dateTime`	`datetime`	เวลาเป็นค่าวันที่และเวลาแบบรวม (จัดรูปแบบตาม RFC3339) จำเป็นต้องมีการชดเชยเขตเวลา เว้นแต่จะมีการระบุเขตเวลาเป็น `timeZone` อย่างชัดเจน	เขียนได้
`end.timeZone`	`string`	เขตเวลาที่ระบุเวลา (จัดรูปแบบเป็นชื่อฐานข้อมูลเขตเวลา IANA เช่น "ยุโรป/ซูริก") สำหรับกิจกรรมที่เกิดซ้ำ ฟิลด์นี้ต้องระบุและระบุเขตเวลาที่มีการขยายการเกิดซ้ำ สำหรับเหตุการณ์เดียว ช่องนี้จะระบุหรือไม่ก็ได้ และจะระบุเขตเวลาที่กำหนดเองสำหรับจุดเริ่มต้น/สิ้นสุดกิจกรรม	เขียนได้
`endTimeUnspecified`	`boolean`	ไม่ได้ระบุเวลาสิ้นสุดจริงๆ ระบบยังระบุเวลาสิ้นสุดด้วยเหตุผลด้านความเข้ากันได้ แม้ว่าแอตทริบิวต์นี้จะกำหนดเป็น "จริง" ก็ตาม ทั้งนี้ ระบบตั้งค่าเริ่มต้นไว้เป็น "เท็จ"
`etag`	`etag`	ETag ของทรัพยากร
`eventType`	`string`	ประเภทเหตุการณ์ที่เจาะจง เมื่อสร้างเหตุการณ์แล้วจะแก้ไขไม่ได้ ค่าที่เป็นไปได้มีดังนี้: "`default`" เป็นกิจกรรมปกติหรือไม่ได้ระบุเพิ่มเติม "`outOfOffice`" - กิจกรรมลางาน "`focusTime`" เป็นกิจกรรมที่ต้องการสมาธิ "`workingLocation`" - กิจกรรมสถานที่ทำงาน	เขียนได้
`extendedProperties`	`object`	พร็อพเพอร์ตี้แบบขยายของเหตุการณ์
`extendedProperties.private`	`object`	พร็อพเพอร์ตี้ที่เป็นแบบส่วนตัวสำหรับสำเนาของกิจกรรมที่ปรากฏในปฏิทินนี้	เขียนได้
`extendedProperties.private.(key)`	`string`	ชื่อของพร็อพเพอร์ตี้ส่วนตัวและค่าที่เกี่ยวข้อง
`extendedProperties.shared`	`object`	พร็อพเพอร์ตี้ที่แชร์ระหว่างสำเนากิจกรรมในปฏิทินของผู้เข้าร่วมรายอื่น	เขียนได้
`extendedProperties.shared.(key)`	`string`	ชื่อของพร็อพเพอร์ตี้ที่ใช้ร่วมกันและค่าที่เกี่ยวข้อง
`focusTimeProperties`	`nested object`	ข้อมูลเหตุการณ์ที่ต้องการสมาธิ ใช้เมื่อ `eventType` คือ `focusTime`	เขียนได้
`focusTimeProperties.autoDeclineMode`	`string`	เลือกว่าจะปฏิเสธคำเชิญเข้าร่วมประชุมที่ซ้อนทับกับกิจกรรมที่ต้องการสมาธิหรือไม่ ค่าที่ใช้ได้คือ `declineNone` หมายความว่าไม่มีการปฏิเสธคำเชิญเข้าร่วมการประชุม `declineAllConflictingInvitations` ซึ่งหมายความว่าระบบจะปฏิเสธคำเชิญเข้าร่วมการประชุมที่ขัดแย้งทั้งหมดซึ่งขัดแย้งกับกิจกรรม และ `declineOnlyNewConflictingInvitations` หมายความว่าระบบจะปฏิเสธเฉพาะคำเชิญการประชุมใหม่ที่ขัดแย้งกันซึ่งมาถึงขณะกิจกรรมที่ต้องการสมาธิเท่านั้น
`focusTimeProperties.chatStatus`	`string`	สถานะสำหรับทำเครื่องหมายผู้ใช้ใน Chat และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจเป็น `available` หรือ `doNotDisturb`
`focusTimeProperties.declineMessage`	`string`	ข้อความตอบกลับที่จะตั้งค่าหากกิจกรรมที่มีอยู่หรือคำเชิญใหม่ถูกปฏิเสธโดยปฏิทินโดยอัตโนมัติ
`gadget`	`object`	แกดเจ็ตที่ขยายกิจกรรมนี้ เลิกใช้งานแกดเจ็ตแล้ว โครงสร้างนี้จะใช้สำหรับการส่งคืนข้อมูลเมตาในปฏิทินวันเกิดเท่านั้น
`gadget.display`	`string`	โหมดการแสดงผลของแกดเจ็ต เลิกใช้งานแล้ว ค่าที่เป็นไปได้มีดังนี้: "`icon`" - แกดเจ็ตจะแสดงอยู่ข้างชื่อกิจกรรมในมุมมองปฏิทิน "`chip`" - แกดเจ็ตจะแสดงขึ้นเมื่อมีการคลิกกิจกรรม	เขียนได้
`gadget.height`	`integer`	ความสูงของแกดเจ็ต หน่วยเป็นพิกเซล ความสูงต้องเป็นจำนวนเต็มที่มากกว่า 0 ไม่บังคับ เลิกใช้งานแล้ว	เขียนได้
`gadget.iconLink`	`string`	URL ไอคอนของแกดเจ็ต Scheme ของ URL ต้องเป็น HTTPS เลิกใช้งานแล้ว	เขียนได้
`gadget.link`	`string`	URL ของแกดเจ็ต Scheme ของ URL ต้องเป็น HTTPS เลิกใช้งานแล้ว	เขียนได้
`gadget.preferences`	`object`	ค่ากำหนด	เขียนได้
`gadget.preferences.(key)`	`string`	ชื่อค่ากำหนดและค่าที่เกี่ยวข้อง
`gadget.title`	`string`	ชื่อแกดเจ็ต เลิกใช้งานแล้ว	เขียนได้
`gadget.type`	`string`	ประเภทของแกดเจ็ต เลิกใช้งานแล้ว	เขียนได้
`gadget.width`	`integer`	ความกว้างของแกดเจ็ตเป็นพิกเซล ความกว้างต้องเป็นจำนวนเต็มที่มากกว่า 0 ไม่บังคับ เลิกใช้งานแล้ว	เขียนได้
`guestsCanInviteOthers`	`boolean`	ผู้เข้าร่วมนอกเหนือจากผู้จัดสามารถเชิญผู้อื่นเข้าร่วมกิจกรรมได้หรือไม่ ไม่บังคับ ค่าเริ่มต้นคือ "จริง"	เขียนได้
`guestsCanModify`	`boolean`	ผู้เข้าร่วมนอกเหนือจากผู้จัดจะแก้ไขกิจกรรมได้หรือไม่ ไม่บังคับ ทั้งนี้ ระบบตั้งค่าเริ่มต้นไว้เป็น "เท็จ"	เขียนได้
`guestsCanSeeOtherGuests`	`boolean`	ผู้เข้าร่วมนอกเหนือจากผู้จัดสามารถดูได้ว่าผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นใคร ไม่บังคับ ค่าเริ่มต้นคือ "จริง"	เขียนได้
`hangoutLink`	`string`	ลิงก์แบบสัมบูรณ์ไปยัง Google Hangouts ที่เชื่อมโยงกับกิจกรรมนี้ อ่านอย่างเดียว
`htmlLink`	`string`	ลิงก์แบบสัมบูรณ์ที่ไปยังกิจกรรมนี้ใน UI เว็บของ Google ปฏิทิน อ่านอย่างเดียว
`iCalUID`	`string`	ตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันของเหตุการณ์ตามที่กำหนดไว้ใน RFC5545 ซึ่งใช้เพื่อระบุกิจกรรมภายในระบบปฏิทินโดยไม่ซ้ำกัน และต้องระบุเมื่อนำเข้ากิจกรรมผ่านวิธีการimport โปรดทราบว่า `iCalUID` และ `id` นั้นไม่เหมือนกัน และต้องระบุเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเมื่อสร้างเหตุการณ์ ความแตกต่างอย่างหนึ่งในความหมายคือ ในเหตุการณ์ที่เกิดซ้ำ เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นจะมี `id` ต่างกัน ในขณะที่ทุกเหตุการณ์จะใช้ `iCalUID` เดียวกัน หากต้องการเรียกเหตุการณ์โดยใช้ `iCalUID` ให้เรียกใช้เมธอดevents.list โดยใช้พารามิเตอร์ `iCalUID` หากต้องการเรียกเหตุการณ์โดยใช้ `id` ให้เรียกใช้เมธอด events.get
`id`	`string`	ตัวระบุเหตุการณ์แบบทึบ เวลาสร้างกิจกรรมรายการเดียวหรือกิจกรรมที่เกิดซ้ำ คุณสามารถระบุรหัสได้ รหัสที่ระบุต้องเป็นไปตามกฎต่อไปนี้ อักขระที่ใช้ได้ในรหัสคืออักขระที่ใช้ในการเข้ารหัส base32hex เช่น ตัวอักษรพิมพ์เล็ก a-v และตัวเลข 0-9 โปรดดูส่วนที่ 3.1.2 ใน RFC2938 ความยาวของรหัสต้องอยู่ระหว่าง 5 ถึง 1,024 อักขระ รหัสต้องไม่ซ้ำกันในแต่ละปฏิทิน เนื่องจากลักษณะของระบบที่กระจายอยู่ทั่วโลก เราจึงรับประกันไม่ได้ว่าระบบจะตรวจพบการชนของรหัส ณ เวลาที่สร้างเหตุการณ์ เราขอแนะนำให้ใช้อัลกอริทึม UUID ที่สร้างขึ้นดังที่อธิบายไว้ใน RFC4122 เพื่อลดความเสี่ยงของการขัดแย้ง หากคุณไม่ระบุ ID เซิร์ฟเวอร์จะสร้างให้โดยอัตโนมัติ โปรดทราบว่า `icalUID` และ `id` นั้นไม่เหมือนกัน และต้องระบุเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเมื่อสร้างเหตุการณ์ ความแตกต่างอย่างหนึ่งในความหมายคือ ในเหตุการณ์ที่เกิดซ้ำ เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นจะมี `id` ต่างกัน ในขณะที่ทุกเหตุการณ์จะใช้ `icalUID` เดียวกัน	เขียนได้
`kind`	`string`	ประเภทของทรัพยากร ("`calendar#event`")
`location`	`string`	สถานที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของกิจกรรมแบบข้อความรูปแบบอิสระ ไม่บังคับ	เขียนได้
`locked`	`boolean`	ไม่ว่าจะเป็นสำเนาเหตุการณ์ที่ล็อก ซึ่งไม่สามารถทำการเปลี่ยนแปลงในช่องกิจกรรมหลัก "summary", "description", "location", "start", "end" หรือ "recurrence" ทั้งนี้ ระบบตั้งค่าเริ่มต้นไว้เป็น "เท็จ" อ่านอย่างเดียว
`organizer`	`object`	ผู้จัดกิจกรรม หากผู้จัดเป็นผู้เข้าร่วมด้วย ระบบจะแสดงรายการแยกต่างหากใน `attendees` โดยตั้งค่าช่อง `organizer` เป็น "จริง" หากต้องการเปลี่ยนผู้จัด ให้ใช้การดำเนินการ move อ่านอย่างเดียว ยกเว้นเมื่อนำเข้าเหตุการณ์	เขียนได้
`organizer.displayName`	`string`	ชื่อผู้จัด (หากมี)	เขียนได้
`organizer.email`	`string`	อีเมลของผู้จัด หากมี ต้องเป็นอีเมลที่ถูกต้องตาม RFC5322	เขียนได้
`organizer.id`	`string`	รหัสโปรไฟล์ของผู้จัด หากมี
`organizer.self`	`boolean`	ผู้จัดสอดคล้องกับปฏิทินที่สำเนาของกิจกรรมนี้ปรากฏหรือไม่ อ่านอย่างเดียว ทั้งนี้ ระบบตั้งค่าเริ่มต้นไว้เป็น "เท็จ"
`originalStartTime`	`nested object`	สำหรับอินสแตนซ์ของกิจกรรมที่เกิดซ้ำ นี่คือเวลาที่กิจกรรมนี้จะเริ่มต้นตามข้อมูลการเกิดซ้ำในกิจกรรมที่เกิดซ้ำที่ระบุโดย duplicateEventId อินสแตนซ์นี้จะระบุอินสแตนซ์ภายในชุดกิจกรรมที่เกิดซ้ำ แม้ว่าจะย้ายอินสแตนซ์ในเวลาอื่นก็ตาม เปลี่ยนแปลงไม่ได้
`originalStartTime.date`	`date`	วันที่ในรูปแบบ "yyyy-mm-dd" หากเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นทั้งวัน	เขียนได้
`originalStartTime.dateTime`	`datetime`	เวลาเป็นค่าวันที่และเวลาแบบรวม (จัดรูปแบบตาม RFC3339) จำเป็นต้องมีการชดเชยเขตเวลา เว้นแต่จะมีการระบุเขตเวลาเป็น `timeZone` อย่างชัดเจน	เขียนได้
`originalStartTime.timeZone`	`string`	เขตเวลาที่ระบุเวลา (จัดรูปแบบเป็นชื่อฐานข้อมูลเขตเวลา IANA เช่น "ยุโรป/ซูริก") สำหรับกิจกรรมที่เกิดซ้ำ ฟิลด์นี้ต้องระบุและระบุเขตเวลาที่มีการขยายการเกิดซ้ำ สำหรับเหตุการณ์เดียว ช่องนี้จะระบุหรือไม่ก็ได้ และจะระบุเขตเวลาที่กำหนดเองสำหรับจุดเริ่มต้น/สิ้นสุดกิจกรรม	เขียนได้
`outOfOfficeProperties`	`nested object`	ข้อมูลกิจกรรมลางาน ใช้เมื่อ `eventType` คือ `outOfOffice`	เขียนได้
`outOfOfficeProperties.autoDeclineMode`	`string`	เลือกว่าจะปฏิเสธคำเชิญเข้าร่วมการประชุมที่ทับซ้อนกิจกรรมลางานหรือไม่ ค่าที่ใช้ได้คือ `declineNone` หมายความว่าไม่มีการปฏิเสธคำเชิญเข้าร่วมประชุม `declineAllConflictingInvitations` ซึ่งหมายความว่าระบบจะปฏิเสธคำเชิญเข้าร่วมการประชุมที่ขัดแย้งกันและขัดแย้งกับกิจกรรมทั้งหมด และ `declineOnlyNewConflictingInvitations` หมายความว่าระบบจะปฏิเสธเฉพาะคำเชิญเข้าร่วมประชุมใหม่ที่ขัดแย้งกันซึ่งมาถึงขณะที่กิจกรรมลางานอยู่เท่านั้น
`outOfOfficeProperties.declineMessage`	`string`	ข้อความตอบกลับที่จะตั้งค่าหากกิจกรรมที่มีอยู่หรือคำเชิญใหม่ถูกปฏิเสธโดยปฏิทินโดยอัตโนมัติ
`privateCopy`	`boolean`	หากตั้งค่าเป็น "จริง" ระบบจะปิดใช้การเผยแพร่เหตุการณ์ โปรดทราบว่าสิ่งนี้ไม่เหมือนกับพร็อพเพอร์ตี้เหตุการณ์ส่วนตัว ไม่บังคับ เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ทั้งนี้ ระบบตั้งค่าเริ่มต้นไว้เป็น "เท็จ"
`recurrence[]`	`list`	รายการบรรทัด RRULE, EXRULE, RDATE และ EXDATE สำหรับกิจกรรมที่เกิดซ้ำ ตามที่ระบุไว้ใน RFC5545 โปรดทราบว่าไม่อนุญาตให้ใช้บรรทัด DTSTART และ DTEND ในช่องนี้ เนื่องจากมีการระบุเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดของกิจกรรมในช่อง `start` และ `end` ช่องนี้จะถูกละไว้สำหรับกิจกรรมเดี่ยวหรือกิจกรรมที่เกิดซ้ำ	เขียนได้
`recurringEventId`	`string`	สำหรับอินสแตนซ์ของกิจกรรมที่เกิดซ้ำ นี่คือ `id` ของกิจกรรมที่เกิดซ้ำซึ่งมีอินสแตนซ์นี้ เปลี่ยนแปลงไม่ได้
`reminders`	`object`	ข้อมูลเกี่ยวกับการช่วยเตือนของกิจกรรมสำหรับผู้ใช้ที่ตรวจสอบสิทธิ์แล้ว
`reminders.overrides[]`	`list`	หากกิจกรรมไม่ได้ใช้การแจ้งเตือนเริ่มต้น ระบบจะแสดงการแจ้งเตือนสำหรับกิจกรรมดังกล่าวเท่านั้น หรือหากไม่ได้ตั้งค่า แสดงว่าไม่มีการตั้งค่าการแจ้งเตือนสำหรับกิจกรรมนี้ จำนวนการแจ้งเตือนให้ลบล้างสูงสุดคือ 5 ครั้ง	เขียนได้
`reminders.overrides[].method`	`string`	วิธีการที่การช่วยเตือนนี้ใช้ ค่าที่เป็นไปได้มีดังนี้: "`email`" - การช่วยเตือนจะส่งทางอีเมล "`popup`" - การช่วยเตือนจะส่งผ่านป๊อปอัป UI ต้องระบุเมื่อเพิ่มการช่วยเตือน	เขียนได้
`reminders.overrides[].minutes`	`integer`	จำนวนนาทีก่อนกิจกรรมจะเริ่มเมื่อการช่วยเตือนควรทริกเกอร์ ค่าที่ใช้ได้จะอยู่ระหว่าง 0 ถึง 40320 (4 สัปดาห์ในหน่วยนาที) ต้องระบุเมื่อเพิ่มการช่วยเตือน	เขียนได้
`reminders.useDefault`	`boolean`	จะใช้การช่วยเตือนเริ่มต้นของปฏิทินกับกิจกรรมหรือไม่	เขียนได้
`sequence`	`integer`	หมายเลขลำดับตาม iCalendar	เขียนได้
`source`	`object`	แหล่งที่มาที่สร้างกิจกรรม ตัวอย่างเช่น หน้าเว็บ ข้อความอีเมล หรือเอกสารใดๆ ที่ระบุได้ด้วย URL ที่มีรูปแบบ HTTP หรือ HTTPS มีเพียงผู้สร้างกิจกรรมเท่านั้นที่สามารถดูหรือแก้ไขได้
`source.title`	`string`	ชื่อของแหล่งที่มา เช่น ชื่อของหน้าเว็บหรือเรื่องของอีเมล	เขียนได้
`source.url`	`string`	URL ของแหล่งที่มาที่ชี้ไปยังแหล่งข้อมูล Scheme ของ URL ต้องเป็น HTTP หรือ HTTPS	เขียนได้
`start`	`nested object`	เวลาเริ่มต้น (รวม) ของกิจกรรม สำหรับกิจกรรมที่เกิดซ้ำ นี่คือเวลาเริ่มต้นของอินสแตนซ์แรก
`start.date`	`date`	วันที่ในรูปแบบ "yyyy-mm-dd" หากเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นทั้งวัน	เขียนได้
`start.dateTime`	`datetime`	เวลาเป็นค่าวันที่และเวลาแบบรวม (จัดรูปแบบตาม RFC3339) จำเป็นต้องมีการชดเชยเขตเวลา เว้นแต่จะมีการระบุเขตเวลาเป็น `timeZone` อย่างชัดเจน	เขียนได้
`start.timeZone`	`string`	เขตเวลาที่ระบุเวลา (จัดรูปแบบเป็นชื่อฐานข้อมูลเขตเวลา IANA เช่น "ยุโรป/ซูริก") สำหรับกิจกรรมที่เกิดซ้ำ ฟิลด์นี้ต้องระบุและระบุเขตเวลาที่มีการขยายการเกิดซ้ำ สำหรับเหตุการณ์เดียว ช่องนี้จะระบุหรือไม่ก็ได้ และจะระบุเขตเวลาที่กำหนดเองสำหรับจุดเริ่มต้น/สิ้นสุดกิจกรรม	เขียนได้
`status`	`string`	สถานะของเหตุการณ์ ไม่บังคับ ค่าที่เป็นไปได้มีดังนี้: "`confirmed`" - กิจกรรมได้รับการยืนยันแล้ว นี่คือสถานะเริ่มต้น "`tentative`" - กิจกรรมได้รับการยืนยันชั่วคราว "`cancelled`" - กิจกรรมถูกยกเลิก (ลบแล้ว) เมธอด list จะแสดงผลเหตุการณ์ที่ยกเลิกเฉพาะในการซิงค์ที่เพิ่มขึ้น (เมื่อระบุ `syncToken` หรือ `updatedMin`) หรือหากมีการตั้งค่าสถานะ `showDeleted` เป็น `true` เมธอด get จะแสดงผลค่าเหล่านั้นเสมอ สถานะ "ยกเลิกแล้ว" จะแสดงถึง 2 สถานะที่แตกต่างกันโดยขึ้นอยู่กับประเภทกิจกรรม ข้อยกเว้นของกิจกรรมที่เกิดซ้ำที่ยกเลิกแล้วจะระบุว่าไม่ควรแสดงอินสแตนซ์นี้ต่อผู้ใช้อีกต่อไป ลูกค้าควรจัดเก็บกิจกรรมเหล่านี้ตลอดอายุของกิจกรรมที่เกิดซ้ำหลัก ระบบจะรับประกันว่าข้อยกเว้นที่ยกเลิกจะต้องมีค่าสำหรับช่อง `id`, `recurringEventId` และ `originalStartTime` ที่ป้อนข้อมูลเท่านั้น ช่องอื่นๆ อาจว่างเปล่า กิจกรรมอื่นๆ ที่ถูกยกเลิกทั้งหมดหมายถึงกิจกรรมที่ถูกลบ ไคลเอ็นต์ควรนำสำเนาที่ซิงค์ในเครื่องออก กิจกรรมที่ยกเลิกดังกล่าวจะหายไปในท้ายที่สุด ดังนั้นอย่าอาศัยกิจกรรมที่ยกเลิกไปแล้วโดยไม่มีกำหนด ระบบจะรับประกันว่ากิจกรรมที่ถูกลบจะมีการเติมข้อมูลในช่อง `id` เท่านั้น ในปฏิทินของผู้จัด กิจกรรมที่ยกเลิกจะยังคงแสดงรายละเอียดของกิจกรรม (สรุป สถานที่ ฯลฯ) ต่อไป เพื่อให้สามารถกู้คืนได้ (ยกเลิกการลบ) ในทำนองเดียวกัน กิจกรรมที่ผู้ใช้ได้รับเชิญและที่ผู้ใช้นําออกด้วยตนเองจะยังคงให้รายละเอียดต่อไป อย่างไรก็ตาม คำขอซิงค์ที่เพิ่มขึ้นที่มีการตั้งค่า `showDeleted` เป็น "เท็จ" จะไม่แสดงรายละเอียดเหล่านี้ หากกิจกรรมเปลี่ยนผู้จัด (เช่น ผ่านการดำเนินการ move) และผู้จัดรายเดิมไม่ได้อยู่ในรายชื่อผู้เข้าร่วม กิจกรรมนั้นจะคงอยู่หลังกิจกรรมที่ถูกยกเลิก ซึ่งรับประกันว่าจะมีการป้อนข้อมูลเฉพาะช่อง `id` เท่านั้น	เขียนได้
`summary`	`string`	ชื่อกิจกรรม	เขียนได้
`transparency`	`string`	กิจกรรมจะบล็อกเวลาในปฏิทินหรือไม่ ไม่บังคับ ค่าที่เป็นไปได้มีดังนี้: "`opaque`" - ค่าเริ่มต้น กิจกรรมจะบล็อกเวลาในปฏิทิน ซึ่งจะเหมือนกับการตั้งค่าแสดงว่าฉันเป็นไม่ว่างใน UI ของปฏิทิน "`transparent`" - กิจกรรมจะไม่บล็อกเวลาในปฏิทิน ซึ่งจะเหมือนกับการตั้งค่าแสดงว่าฉันเป็นว่างใน UI ของปฏิทิน	เขียนได้
`updated`	`datetime`	เวลาที่แก้ไขเหตุการณ์ครั้งล่าสุด (เป็นการประทับเวลา RFC3339) อ่านอย่างเดียว
`visibility`	`string`	ระดับการเข้าถึงกิจกรรม ไม่บังคับ ค่าที่เป็นไปได้มีดังนี้: "`default`" - ใช้ระดับการเข้าถึงเริ่มต้นสำหรับกิจกรรมในปฏิทิน นี่คือค่าเริ่มต้น "`public`" - กิจกรรมนี้เป็นแบบสาธารณะ และผู้อ่านทุกคนในปฏิทินจะเห็นรายละเอียดของกิจกรรม "`private`" - กิจกรรมเป็นแบบส่วนตัวและเฉพาะผู้เข้าร่วมกิจกรรมเท่านั้นที่จะดูรายละเอียดของกิจกรรมได้ "`confidential`" - กิจกรรมนี้เป็นแบบส่วนตัว ค่านี้ให้ไว้ด้วยเหตุผลด้านความเข้ากันได้	เขียนได้
`workingLocationProperties`	`nested object`	ข้อมูลเหตุการณ์สถานที่ทำงาน	เขียนได้
`workingLocationProperties.customLocation`	`object`	หากมี ให้ระบุว่าผู้ใช้ทำงานจากสถานที่ที่กำหนดเอง	เขียนได้
`workingLocationProperties.customLocation.label`	`string`	ป้ายกำกับเพิ่มเติมซึ่งไม่บังคับสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม	เขียนได้
`workingLocationProperties.homeOffice`	`any value`	หากมี ให้ระบุว่าผู้ใช้กำลังทำงานที่บ้าน	เขียนได้
`workingLocationProperties.officeLocation`	`object`	หากมี ให้ระบุว่าผู้ใช้ทำงานจากสำนักงาน	เขียนได้
`workingLocationProperties.officeLocation.buildingId`	`string`	ตัวระบุอาคารที่ไม่บังคับ ซึ่งควรอ้างอิงรหัสอาคารในฐานข้อมูลทรัพยากรขององค์กร	เขียนได้
`workingLocationProperties.officeLocation.deskId`	`string`	ตัวระบุเดสก์ (ไม่บังคับ)	เขียนได้
`workingLocationProperties.officeLocation.floorId`	`string`	ตัวระบุชั้นที่ไม่บังคับ	เขียนได้
`workingLocationProperties.officeLocation.floorSectionId`	`string`	ตัวระบุส่วนชั้นที่ไม่บังคับ	เขียนได้
`workingLocationProperties.officeLocation.label`	`string`	ชื่อสำนักงานที่แสดงในไคลเอ็นต์ของปฏิทินบนเว็บและอุปกรณ์เคลื่อนที่ เราขอแนะนำให้คุณอ้างอิงชื่ออาคารในฐานข้อมูลทรัพยากรขององค์กร	เขียนได้
`workingLocationProperties.type`	`string`	ประเภทสถานที่ทำงาน ค่าที่เป็นไปได้มีดังนี้: "`homeOffice`" ผู้ใช้กำลังทำงานที่บ้าน "`officeLocation`" - ผู้ใช้กำลังทำงานจากสำนักงาน "`customLocation`" - ผู้ใช้กำลังทำงานจากสถานที่ที่กำหนดเอง รายละเอียดใดๆ ระบุไว้ในช่องย่อยของชื่อที่ระบุ แต่ช่องนี้อาจขาดหายไปหากเว้นว่างไว้ ระบบจะไม่สนใจช่องอื่นๆ ต้องระบุเมื่อเพิ่มพร็อพเพอร์ตี้สถานที่ทำงาน	เขียนได้

วิธีการ

ลบ: ลบกิจกรรม
รับ: แสดงผลกิจกรรมตามรหัส Google ปฏิทิน หากต้องการดึงเหตุการณ์โดยใช้รหัส iปฏิทินของฉัน ให้เรียกใช้เมธอดevents.list โดยใช้พารามิเตอร์ iCalUID
import: นำเข้ากิจกรรม การทำงานนี้ใช้เพื่อเพิ่มสำเนาส่วนตัวของกิจกรรมที่มีอยู่ไปยังปฏิทิน นำเข้าได้เฉพาะเหตุการณ์ที่มี eventType เป็น default เท่านั้น
ลักษณะการทำงานที่เลิกใช้งาน: หากนำเข้าเหตุการณ์ที่ไม่ใช่ default ระบบจะเปลี่ยนประเภทเหตุการณ์เป็น default และพร็อพเพอร์ตี้เฉพาะสำหรับประเภทเหตุการณ์ที่มีอยู่จะหายไป
แทรก: สร้างกิจกรรม
อินสแตนซ์: แสดงผลกิจกรรมที่เกิดซ้ำที่ระบุ
list: แสดงผลกิจกรรมในปฏิทินที่ระบุ
ย้าย: ย้ายกิจกรรมไปยังปฏิทินอื่น เช่น เปลี่ยนผู้จัดกิจกรรม โปรดทราบว่าคุณสามารถย้ายได้เพียง default กิจกรรมเท่านั้น ไม่สามารถย้าย outOfOffice, focusTime และ workingLocation ได้
แพตช์: อัปเดตกิจกรรม เมธอดนี้รองรับความหมายของแพตช์ โปรดทราบว่าคำขอแพตช์แต่ละรายการจะใช้หน่วยโควต้า 3 หน่วย ควรใช้ get ตามด้วย update ค่าในช่องที่คุณระบุจะแทนที่ค่าที่มีอยู่ ช่องที่คุณไม่ได้ระบุในคำขอจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง หากระบุ จะเขียนทับอาร์เรย์ที่มีอยู่ การดำเนินการนี้จะทิ้งองค์ประกอบอาร์เรย์ก่อนหน้าทั้งหมด
quickAdd: สร้างเหตุการณ์ตามสตริงข้อความธรรมดา
อัปเดต: อัปเดตกิจกรรม เมธอดนี้ไม่รองรับความหมายของแพตช์และอัปเดตทรัพยากรเหตุการณ์ทั้งหมดเสมอ หากต้องการอัปเดตบางส่วน ให้ใช้ get ตามด้วย update โดยใช้ etag เพื่อให้มั่นใจถึงความเป็นอิสระ
นาฬิกา: คอยดูการเปลี่ยนแปลงในแหล่งข้อมูลเหตุการณ์