สำคัญ: แพ็กเกจพรีเมียมของ Google Maps Platform จะไม่พร้อมให้ลงชื่อสมัครใช้หรือลูกค้าใหม่อีกต่อไป
การตรวจสอบสิทธิ์รหัสไคลเอ็นต์ของ Maps JavaScript API
คุณตรวจสอบสิทธิ์คำขอด้วยแพลตฟอร์ม Google Maps ได้โดยใช้รหัสไคลเอ็นต์ร่วมกับการลงทะเบียน URL (แทนคีย์ API)
การระบุรหัสไคลเอ็นต์เมื่อโหลด API
โค้ดด้านล่างแสดงวิธีแทนที่ YOUR_CLIENT_ID ด้วยรหัสไคลเอ็นต์ของคุณเองเมื่อโหลด Google Maps Platform
<script async defer src="https://maps.googleapis.com/maps/api/js?client=YOUR_CLIENT_ID&v=quarterly&callback=initMap"></script>
การจัดการ URL ที่ได้รับอนุญาต
เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลที่สามใช้รหัสไคลเอ็นต์ในเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม การใช้รหัสไคลเอ็นต์จะจำกัดไว้เฉพาะรายการ URL ที่คุณอนุญาตเป็นการเฉพาะ
การค้นหารหัสไคลเอ็นต์ใน Cloud Console
การให้สิทธิ์ URL ใน Cloud Console
URL ที่ได้รับสิทธิ์ทั้งหมดจะแสดงอยู่ในตาราง URL ที่ได้รับอนุญาตสำหรับรหัสไคลเอ็นต์ gme-[company] บนหน้ารหัสไคลเอ็นต์
หากต้องการนำ URL ออก ให้เลือกช่องทางด้านซ้ายของ URL แล้วคลิกไอคอนลบ
ที่ด้านขวาบนของตารางหากต้องการเพิ่ม URL ใหม่ ให้คลิกเพิ่ม URL ที่ด้านล่างของตาราง
มีประโยชน์: กฎของ URL รหัสไคลเอ็นต์ที่ได้รับอนุญาตจะแตกต่างจากข้อจำกัดผู้อ้างอิงคีย์ API ดูรายละเอียดเพิ่มเติมด้านล่าง
ข้อควรพิจารณาเกี่ยวกับ URL ที่ได้รับอนุญาตมีดังนี้
- ชื่อโดเมนหรือที่อยู่ IP ไม่จำเป็นต้องเข้าถึงแบบสาธารณะ
- ตัวอย่างเช่น
http://myintranet
และhttp://192.168.1.1
เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง - โดเมนย่อยทั้งหมดของโดเมนที่ระบุก็ได้รับอนุญาตเช่นกัน
ตัวอย่างเช่น หากโดเมนเปล่า
http://example.com
ได้รับอนุญาต โดเมนย่อยhttp://www.example.com
ก็จะได้รับสิทธิ์เช่นกัน ในทางกลับกัน ซึ่งไม่เป็นความจริง นั่นคือ หากให้สิทธิ์http://www.example.com
แล้วhttp://example.com
จะไม่ได้รับสิทธิ์โดยอัตโนมัติ- เส้นทางย่อยทั้งหมดของเส้นทางที่ได้รับอนุญาตก็จะได้รับอนุญาตเช่นกัน
ตัวอย่างเช่น หาก
http://example.com
ได้รับอนุญาตhttp://example.com/foo
ก็จะได้รับสิทธิ์ด้วย นอกจากนี้ เนื่องจากโดเมนย่อยของโดเมนที่ระบุก็ได้รับอนุญาตด้วยhttp://sub.example.com/bar
- เส้นทางคำนึงถึงตัวพิมพ์เล็กและตัวพิมพ์ใหญ่
ตัวอย่างเช่น
http://www.example.com/ThisPath/
ไม่เหมือนกับhttp://www.example.com/thispath/
- คุณจำกัด URL ที่ถูกต้องให้กับผู้ที่ใช้พอร์ตบางพอร์ตได้
ตัวอย่างเช่น หากระบุ
http://example.com:8080/foo
จะไม่ให้สิทธิ์http://example.com
- โปรโตคอล HTTP และ HTTPS ถือเป็น URL ที่ต่างกัน
ตัวอย่างเช่น หาก
https://example.com
ได้รับอนุญาตhttp://example.com
จะไม่ได้รับสิทธิ์โดยอัตโนมัติหากระบุการอ้างอิงคำต่อท้ายโดยไม่มีรูปแบบโปรโตคอล เช่น
www.example.com
ระบบจะสร้างกฎแยกกันสำหรับทั้ง HTTP และ HTTPS
สำหรับรูปแบบโปรโตคอลที่แปลกใหม่มากกว่า HTTP หรือ HTTP ให้ดูวิธีการที่ให้ไว้ใน Cloud Console