คู่มือนี้จะอธิบายวิธีระบุข้อมูลการกําหนดเป้าหมายในคําขอโฆษณา
หากต้องการดูการทํางานจริงของการกําหนดเป้าหมายโฆษณา ให้ดาวน์โหลดแอปสาธิต iOS API ใน Swift หรือ Objective-C
ข้อกำหนดเบื้องต้น
ทำตามคู่มือเริ่มต้นใช้งาน
GADRequestConfiguration
GADRequestConfiguration
คือออบเจ็กต์ที่รวบรวมข้อมูลการกําหนดเป้าหมายเพื่อนำไปใช้ทั่วโลกผ่านGADMobileAds
อินสแตนซ์ที่แชร์ ซึ่งเข้าถึงได้ด้วยรหัสต่อไปนี้
Swift
let requestConfiguration = GADMobileAds.sharedInstance().requestConfiguration
Objective-C
GADRequestConfiguration requestConfiguration = GADMobileAds.sharedInstance.requestConfiguration;
การตั้งค่าสำหรับเนื้อหาที่มีเด็กเป็นกลุ่มเป้าหมาย
กฎหมายว่าด้วยความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทางอินเทอร์เน็ตของเด็ก (COPPA) มีการตั้งค่าที่เรียกว่า tagForChildDirectedTreatment
ในฐานะนักพัฒนาแอป คุณระบุได้ว่าต้องการให้ Google พิจารณาเนื้อหาของคุณว่าเป็นประเภทที่เหมาะสมกับเด็กหรือไม่เมื่อคุณส่งคำขอโฆษณา เมื่อคุณระบุว่าต้องการให้ Google พิจารณาเนื้อหาของคุณว่ามีความเหมาะสมกับเด็ก Google จะดําเนินการเพื่อปิดใช้ IBA และโฆษณารีมาร์เก็ตติ้งในคําขอโฆษณานั้น ตัวเลือกการตั้งค่ามีดังนี้
- ตั้งค่า
tagForChildDirectedTreatment
เป็นtrue
เพื่อระบุว่าคุณต้องการให้ระบบพิจารณาเนื้อหาของคุณเป็นประเภทที่เหมาะสมกับเด็กตามกฎ COPPA ซึ่งจะป้องกันไม่ให้ส่งตัวระบุโฆษณา IDFA - ตั้งค่า
tagForChildDirectedTreatment
เป็นfalse
เพื่อระบุว่าไม่ต้องการให้ระบบพิจารณาเนื้อหาของคุณว่าเป็นประเภทที่มีเด็กเป็นกลุ่มเป้าหมายตามกฎ COPPA - อย่าตั้งค่าเป็น
tagForChildDirectedTreatment
หากไม่ต้องการระบุวิธีที่ต้องการให้ระบบพิจารณาเนื้อหาของคุณในส่วนที่เกี่ยวกับ COPPA
ตัวอย่างต่อไปนี้ระบุว่าคุณต้องการให้ระบบถือว่าเนื้อหาของคุณมีไว้สําหรับเด็กตามวัตถุประสงค์ของ COPPA
Swift
GADMobileAds.sharedInstance().requestConfiguration.tagForChildDirectedTreatment = true
Objective-C
GADMobileAds.sharedInstance.requestConfiguration.tagForChildDirectedTreatment = @YES;
การตั้งค่าแท็กนี้หมายความว่าคุณรับรองว่าการแจ้งเตือนนี้ถูกต้องและคุณได้รับอนุญาตให้ดำเนินการในนามของเจ้าของแอป และคุณเข้าใจว่าการละเมิดการตั้งค่านี้อาจส่งผลให้บัญชี Google ของคุณสิ้นสุดลง
ผู้ใช้ที่มีอายุต่ำกว่าเกณฑ์ที่ให้ความยินยอมได้
คุณทำเครื่องหมายให้กับคำขอโฆษณาเพื่อรับการปฏิบัติสำหรับผู้ใช้ในเขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA) ที่มีอายุต่ำกว่าอายุที่ให้ความยินยอมได้ ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้บริโภค (GDPR) ได้สะดวก โปรดทราบว่าคุณอาจมีภาระหน้าที่อื่นๆ ตามกฎหมายภายใต้ GDPR อ่านหลักเกณฑ์ของสหภาพยุโรปและปรึกษาที่ปรึกษาทางกฎหมายของคุณ โปรดทราบว่าเครื่องมือของ Google ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบนี้ได้สะดวกเท่านั้น แต่ไม่ได้ลดทอนภาระหน้าที่ของผู้เผยแพร่โฆษณาตามที่กฎระเบียบดังกล่าวระบุไว้แต่อย่างใด ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบของ GDPR ที่มีต่อผู้เผยแพร่โฆษณา
เมื่อใช้ฟีเจอร์นี้ ระบบจะรวมพารามิเตอร์แท็กสำหรับผู้ใช้ในยุโรปที่มีอายุต่ำกว่าอายุที่ยินยอม (TFUA) ไว้ในคําขอโฆษณาทั้งหมดในอนาคต พารามิเตอร์นี้จะปิดใช้โฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ รวมถึงรีมาร์เก็ตติ้งสําหรับคําขอโฆษณาที่เฉพาะเจาะจงนั้น ทั้งยังปิดใช้คำขอที่ส่งไปยังผู้ให้บริการโฆษณาบุคคลที่สาม เช่น พิกเซลการวัดผลโฆษณาและเซิร์ฟเวอร์โฆษณาบุคคลที่สาม
การตั้งค่านี้ใช้ได้กับ Google Mobile Ads SDK ทุกเวอร์ชันโดยการตั้งค่าพร็อพเพอร์ตี้ tagForUnderAgeOfConsent
บนออบเจ็กต์ GADMobileAds.requestConfiguration
และส่ง true
- ตั้งค่า
tagForUnderAgeOfConsent
เป็นtrue
เพื่อระบุว่าคุณต้องการให้จัดการคําขอโฆษณาในลักษณะที่เหมาะกับผู้ใช้ที่มีอายุต่ำกว่าอายุที่ยินยอม ซึ่งจะป้องกันไม่ให้ส่งตัวระบุโฆษณา IDFA ด้วย - การไม่ตั้งค่า
tagForUnderAgeOfConsent
หมายความว่าคุณไม่ต้องการให้ระบบจัดการคําขอโฆษณาในลักษณะที่เหมาะกับผู้ใช้ที่มีอายุต่ำกว่าอายุที่ยินยอม
ตัวอย่างต่อไปนี้ระบุว่าคุณต้องการรวม TFUA ไว้ในคําขอโฆษณา
Swift
GADMobileAds.sharedInstance().requestConfiguration.tagForUnderAgeOfConsent = true
Objective-C
GADMobileAds.sharedInstance.requestConfiguration.tagForUnderAgeOfConsent = @YES;
แท็กเพื่อเปิดใช้การตั้งค่าการดูแลให้เหมาะสมกับเด็กและ tagForUnderAgeOfConsent
ไม่ควรตั้งค่าเป็น true
พร้อมกัน
ในกรณีที่เป็น "true" พร้อมกัน การตั้งค่าสำหรับเด็กจะมีลำดับความสำคัญเหนือกว่า
การกรองเนื้อหาโฆษณา
แอปสามารถกำหนดการจัดประเภทเนื้อหาโฆษณาสูงสุดสำหรับคำขอโฆษณาทั้งหมดได้โดยใช้พร็อพเพอร์ตี้ maxAdContentRating
ของ GADRequestConfiguration
การตั้งค่านี้มีผลกับคำขอโฆษณาทั้งหมดในอนาคตตลอดระยะเวลาที่เหลือของเซสชัน ค่าที่เป็นไปได้สำหรับพร็อพเพอร์ตี้นี้อิงตามการจัดประเภทป้ายกำกับเนื้อหาดิจิทัล และควรเป็นหนึ่งในค่าคงที่ต่อไปนี้
GADMaxAdContentRatingGeneral
GADMaxAdContentRatingParentalGuidance
GADMaxAdContentRatingTeen
GADMaxAdContentRatingMatureAudience
โค้ดต่อไปนี้จะกําหนดค่าคําขอโฆษณาทั้งหมดเพื่อระบุว่าเนื้อหาโฆษณาที่แสดงควรสอดคล้องกับการกําหนดป้ายกํากับเนื้อหาดิจิทัลที่ไม่เกินGADMaxAdContentRatingGeneral
Swift
GADMobileAds.sharedInstance().requestConfiguration.maxAdContentRating =
GADMaxAdContentRatingGeneral
Objective-C
GADMobileAds.sharedInstance.requestConfiguration.maxAdContentRating =
GADMaxAdContentRatingGeneral;
การดูแลด้านความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้เผยแพร่โฆษณา (เบต้า)
Publisher Privacy Treatment
(PPT) API เป็นเครื่องมือที่ไม่บังคับซึ่งช่วยให้แอประบุได้ว่าต้องการปิดการปรับโฆษณาตามโปรไฟล์ของผู้ใช้สำหรับคำขอโฆษณาทั้งหมดหรือไม่โดยใช้พร็อพเพอร์ตี้ publisherPrivacyPersonalizationState
ของ GADRequestConfiguration
เมื่อใช้ฟีเจอร์นี้ พารามิเตอร์การจัดการความเป็นส่วนตัวของผู้เผยแพร่โฆษณา (PPT) จะรวมอยู่ในคําขอโฆษณาทั้งหมดในอนาคตตลอดระยะเวลาที่เหลือของเซสชัน
คำขอโฆษณาไปยัง Google จะแสดงโฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้โดยค่าเริ่มต้น โค้ดต่อไปนี้จะปิดการปรับโฆษณาตามโปรไฟล์ของผู้ใช้สําหรับคําขอโฆษณาทั้งหมด
Swift
GADMobileAds.sharedInstance().requestConfiguration.publisherPrivacyPersonalizationState =
.disabled
Objective-C
GADMobileAds.sharedInstance.requestConfiguration.publisherPrivacyPersonalizationState =
GADPublisherPrivacyPersonalizationStateDisabled;
GAMRequest
ออบเจ็กต์ GAMRequest
จะรวบรวมข้อมูลการกำหนดเป้าหมายเพื่อส่งไปกับคำขอโฆษณา
URL ของเนื้อหา
เมื่อขอโฆษณา แอปสามารถส่ง URL ของเนื้อหาที่แสดง ซึ่งจะช่วยให้การกําหนดเป้าหมายคีย์เวิร์ดจับคู่โฆษณากับเนื้อหาได้
ตัวอย่างเช่น หากแอปของคุณส่งคําขอโฆษณาขณะแสดงเนื้อหาจาก https://www.example.com
คุณสามารถส่ง URL นี้เพื่อกําหนดเป้าหมายคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องได้
Swift
let request = GAMRequest()
request.contentURL = "https://www.example.com"
Objective-C
GAMRequest *request = [GAMRequest request];
request.contentURL = @"https://www.example.com";
การกำหนดเป้าหมายเอง
เมื่อกําหนดค่าคู่คีย์-ค่าใน UI ของ Ad Manager แล้ว ให้ตั้งค่าการกําหนดเป้าหมายที่กําหนดเองด้วยคีย์-ค่าในคําขอโฆษณา จากนั้นรายการโฆษณาที่กำหนดเป้าหมายคีย์-ค่าเหล่านั้นจะมีสิทธิ์แสดงสำหรับคำขอโฆษณาดังกล่าว หากต้องการกําหนดเป้าหมายค่าหลายค่าสําหรับคีย์เดียว ให้ป้อนค่าเป็นสตริงที่คั่นด้วยคอมมา
Swift
let request = GAMRequest()
request.customTargeting = ["gender" : "male", "section" : "health,fitness"];
Objective-C
GAMRequest *request = [GAMRequest request];
request.customTargeting = @{@"gender" : @"male", @"section" : @"health,fitness"};
ความปลอดภัยของแบรนด์ (เบต้า)
แอปที่แสดงเนื้อหาแบบไดนามิกซึ่งมีไว้สําหรับกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายสามารถระบุรายการ URL สั้นๆ ผ่านพร็อพเพอร์ตี้ neighboringContentURLs
URL ของเนื้อหาใกล้เคียงแตกต่างจากพร็อพเพอร์ตี้ contentURL
ตรงที่ URL เหล่านี้มีไว้เพื่อความปลอดภัยของแบรนด์เท่านั้น
สมมติว่าแอปของคุณแสดงเนื้อหาจาก URL 4 รายการในฟีดที่มีโฆษณาด้วย คุณสามารถขอโฆษณาที่มีการจัดประเภทเนื้อหาคล้ายกับ URL เหล่านั้นได้โดยส่งผ่าน URL ดังกล่าวดังนี้
Swift
let request = GAMRequest()
request.neighboringContentURLs =
["https://www.example1.com", "https://www.example2.com",
"https://www.example3.com", "https://www.example4.com"]
Objective-C
GAMRequest *request = [GAMRequest request];
request.neighboringContentURLs =
@[@"https://www.example1.com", @"https://www.example2.com",
@"https://www.example3.com", @"https://www.example4.com"];
ตัวระบุที่ได้จากผู้เผยแพร่โฆษณา
คุณสามารถตั้งค่าตัวระบุที่ผู้เผยแพร่โฆษณามีให้ (PPID) เพื่อใช้ในการกําหนดความถี่สูงสุด การแบ่งกลุ่มและการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย การหมุนเวียนโฆษณาตามลำดับ และการควบคุมการแสดงโฆษณาตามกลุ่มเป้าหมายแบบอื่นๆ ในทุกอุปกรณ์
การตั้งค่า PPID ทำได้ผ่าน GAMRequest
ดังนี้
Swift
let request = GAMRequest()
request.publisherProvidedID = "AB123456789"
Objective-C
GAMRequest *request = [GAMRequest request];
request.publisherProvidedID = @"AB123456789";
ดูตัวอย่าง PPID ของ Ad Manager สําหรับการใช้งานตัวระบุที่ได้จากผู้เผยแพร่โฆษณา (PPID) ในแอปสาธิต iOS API
สัญญาณที่ได้จากผู้เผยแพร่โฆษณา
คุณสามารถส่งข้อมูลกลุ่มเป้าหมายและข้อมูลตามบริบทเป็นสัญญาณที่ได้จากผู้เผยแพร่โฆษณา (PPS) ในคําขอโฆษณา PPS ช่วยให้คุณใช้ข้อมูลผู้ใช้เพื่อปรับปรุงการสร้างรายได้แบบเป็นโปรแกรมได้โดยแจ้งลักษณะกลุ่มเป้าหมายให้ผู้เสนอราคาทราบในธุรกรรมทุกประเภท โดยใช้การจัดหมวดหมู่มาตรฐานโดยไม่ต้องแชร์ตัวระบุผู้ใช้ ลักษณะของกลุ่มเป้าหมายอาจรวมถึงข้อมูลตามพฤติกรรมและความสนใจ (การจัดหมวดหมู่กลุ่มเป้าหมายของ IAB 1.1) และข้อมูลตามบริบท (การจัดหมวดหมู่เนื้อหาของ IAB 2.2)
Swift
let extras = GADExtras()
extras.additionalParameters = [
// Set the demographic to an audience with an "Age Range" of 30-34 and an
// interest in mergers and acquisitions.
"IAB_AUDIENCE_1_1": [6, 284],
// Set the content to sedan, station wagon and SUV automotive values.
"IAB_CONTENT_2_2": [4, 5, 6]
]
let request = GAMRequest()
request.register(extras)
Objective-C
GADExtras *extras = [[GADExtras alloc] init];
extras.additionalParameters = @{
// Set the demographic to an audience with an "Age Range" of 30-34 and an
// interest in mergers and acquisitions.
@"IAB_AUDIENCE_1_1":@[@6, @284],
// Set the content to sedan, station wagon and SUV automotive values.
@"IAB_CONTENT_2_2":@[@4,@5,@6]
};
GAMRequest *request = [GAMRequest request];
[request registerAdNetworkExtras:extras];
คำถามที่พบบ่อย
- ระบบจะใช้การกําหนดเป้าหมายใดเมื่อโฆษณารีเฟรชโดยอัตโนมัติ
- เมื่อรีเฟรชโฆษณา ระบบจะใช้ออบเจ็กต์
GAMRequest
ที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้เพื่อกําหนดเป้าหมายอีกครั้ง หากต้องการตั้งค่าการกําหนดเป้าหมายใหม่ ให้เรียกloadRequest
ในGAMBannerView
อย่างชัดเจนโดยใช้ออบเจ็กต์GAMRequest
ใหม่ - ฉันจะส่งพารามิเตอร์การกําหนดเป้าหมายเพิ่มเติมไปยังเครือข่ายสื่อกลางได้อย่างไร
- ดูสื่อกลางเพื่อดูวิธีส่งการกำหนดเป้าหมายไปยังเครือข่ายสื่อกลาง