การผสานรวม Google Sign-In เข้ากับแอป Android ของคุณ

หากต้องการผสานรวม Google Sign-In เข้ากับแอป Android ให้กำหนดค่า Google Sign-In และใส่ปุ่มลงในเลย์เอาต์ของแอปเพื่อเริ่มขั้นตอนการลงชื่อเข้าใช้

ก่อนเริ่มต้น

กําหนดค่าโปรเจ็กต์คอนโซล Google API และตั้งค่าโปรเจ็กต์ Android Studio

กำหนดค่า Google Sign-In และออบเจ็กต์ GoogleSignInClient

  1. ในเมธอด onCreate ของกิจกรรมการลงชื่อเข้าใช้ ให้กําหนดค่า Google Sign-In เพื่อขอข้อมูลผู้ใช้ที่จําเป็นสําหรับแอปของคุณ เช่น หากต้องการกําหนดค่า Google Sign-In เพื่อขอรหัสและข้อมูลโปรไฟล์พื้นฐานของผู้ใช้ ให้สร้างออบเจ็กต์ GoogleSignInOptions ที่มีพารามิเตอร์ DEFAULT_SIGN_IN หากต้องการขออีเมลของผู้ใช้ด้วย ให้สร้างออบเจ็กต์ GoogleSignInOptions ด้วยตัวเลือก requestEmail

    // Configure sign-in to request the user's ID, email address, and basic
    // profile. ID and basic profile are included in DEFAULT_SIGN_IN.
    GoogleSignInOptions gso = new GoogleSignInOptions.Builder(GoogleSignInOptions.DEFAULT_SIGN_IN)
            .requestEmail()
            .build();

    หากต้องการขอขอบเขตเพิ่มเติมเพื่อเข้าถึง Google API ให้ระบุขอบเขตเหล่านั้นด้วย requestScopes ในการลงชื่อเข้าใช้ ให้ขอเฉพาะขอบเขตที่จําเป็นสําหรับให้แอปทํางานได้ขั้นต่ำเท่านั้น เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด ขอขอบเขตเพิ่มเติมก็ต่อเมื่อจําเป็นเท่านั้น เพื่อให้ผู้ใช้เห็นหน้าจอขอความยินยอมในบริบทของการดำเนินการที่ผู้ใช้ทํา โปรดดูการขอขอบเขตเพิ่มเติม

  2. จากนั้นสร้างออบเจ็กต์ GoogleSignInClient ด้วยตัวเลือกที่คุณระบุในเมธอด onCreate ของกิจกรรมการลงชื่อเข้าใช้

    // Build a GoogleSignInClient with the options specified by gso.
    mGoogleSignInClient = GoogleSignIn.getClient(this, gso);

ตรวจสอบผู้ใช้ที่ลงชื่อเข้าใช้อยู่

ในเมธอด onStart ของกิจกรรม ให้ตรวจสอบว่าผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้แอปด้วย Google ไว้แล้วหรือยัง

// Check for existing Google Sign In account, if the user is already signed in
// the GoogleSignInAccount will be non-null.
GoogleSignInAccount account = GoogleSignIn.getLastSignedInAccount(this);
updateUI(account);

หาก GoogleSignIn.getLastSignedInAccount แสดงผลออบเจ็กต์ GoogleSignInAccount (แทนที่จะเป็น null) แสดงว่าผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้แอปด้วย Google อยู่แล้ว อัปเดต UI ให้สอดคล้องกัน เช่น ซ่อนปุ่มลงชื่อเข้าใช้ เปิดกิจกรรมหลัก หรือดำเนินการใดๆ ที่เหมาะสมกับแอปของคุณ

หาก GoogleSignIn.getLastSignedInAccount แสดงผลเป็น null แสดงว่าผู้ใช้ยังไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้แอปด้วย Google อัปเดต UI เพื่อแสดงปุ่มลงชื่อเข้าใช้ Google

เพิ่มปุ่มลงชื่อเข้าใช้ด้วย Google ลงในแอป

  1. ปุ่มลงชื่อเข้าใช้ Google มาตรฐาน เพิ่ม SignInButton ในเลย์เอาต์ของแอปพลิเคชัน

    <com.google.android.gms.common.SignInButton
     android:id="@+id/sign_in_button"
     android:layout_width="wrap_content"
     android:layout_height="wrap_content" />
    
  2. ไม่บังคับ: หากใช้กราฟิกปุ่มลงชื่อเข้าใช้เริ่มต้นแทนการให้ชิ้นงานปุ่มลงชื่อเข้าใช้ของคุณเอง คุณจะปรับขนาดปุ่มได้ด้วยเมธอด setSize

    // Set the dimensions of the sign-in button.
    SignInButton signInButton = findViewById(R.id.sign_in_button);
    signInButton.setSize(SignInButton.SIZE_STANDARD);
    
  3. ในกิจกรรม Android (เช่น ในเมธอด onCreate) ให้ลงทะเบียน OnClickListener ของปุ่มเพื่อลงชื่อเข้าใช้ผู้ใช้เมื่อมีการคลิก ดังนี้

    findViewById(R.id.sign_in_button).setOnClickListener(this);
    

เริ่มขั้นตอนการลงชื่อเข้าใช้

  1. รูปภาพตัวเลือกบัญชีการลงชื่อเข้าใช้ ในเมธอด onClick ของกิจกรรม ให้จัดการการแตะปุ่มลงชื่อเข้าใช้ด้วยการสร้าง Intent การลงชื่อเข้าใช้ด้วยเมธอด getSignInIntent และเริ่ม Intent ด้วย startActivityForResult

    @Override
    public void onClick(View v) {
        switch (v.getId()) {
            case R.id.sign_in_button:
                signIn();
                break;
            // ...
        }
    }
    
    private void signIn() {
        Intent signInIntent = mGoogleSignInClient.getSignInIntent();
        startActivityForResult(signInIntent, RC_SIGN_IN);
    }

    การเริ่ม Intent จะแจ้งให้ผู้ใช้เลือกบัญชี Google เพื่อลงชื่อเข้าใช้ หากคุณขอขอบเขตนอกเหนือจาก profile, email และ openid ระบบจะแจ้งให้ผู้ใช้ให้สิทธิ์เข้าถึงทรัพยากรที่ขอด้วย

  2. หลังจากผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้แล้ว คุณจะรับออบเจ็กต์ GoogleSignInAccount ของผู้ใช้ได้ในเมธอด onActivityResult ของกิจกรรม

    @Override
    public void onActivityResult(int requestCode, int resultCode, Intent data) {
        super.onActivityResult(requestCode, resultCode, data);
    
        // Result returned from launching the Intent from GoogleSignInClient.getSignInIntent(...);
        if (requestCode == RC_SIGN_IN) {
            // The Task returned from this call is always completed, no need to attach
            // a listener.
            Task<GoogleSignInAccount> task = GoogleSignIn.getSignedInAccountFromIntent(data);
            handleSignInResult(task);
        }
    }

    ออบเจ็กต์ GoogleSignInAccount มีข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้ที่ลงชื่อเข้าใช้ เช่น ชื่อผู้ใช้

    private void handleSignInResult(Task<GoogleSignInAccount> completedTask) {
        try {
            GoogleSignInAccount account = completedTask.getResult(ApiException.class);
    
            // Signed in successfully, show authenticated UI.
            updateUI(account);
        } catch (ApiException e) {
            // The ApiException status code indicates the detailed failure reason.
            // Please refer to the GoogleSignInStatusCodes class reference for more information.
            Log.w(TAG, "signInResult:failed code=" + e.getStatusCode());
            updateUI(null);
        }
    }

    นอกจากนี้ คุณยังดูอีเมลของผู้ใช้ได้ด้วย getEmail, รหัส Google ของผู้ใช้ (สําหรับฝั่งไคลเอ็นต์) ด้วย getId และโทเค็นระบุตัวตนของผู้ใช้ด้วย getIdToken หากต้องการส่งผู้ใช้ที่ลงชื่อเข้าใช้อยู่ในขณะนี้ไปยังเซิร์ฟเวอร์แบ็กเอนด์ ให้ส่งโทเค็นระบุตัวตนไปยังเซิร์ฟเวอร์แบ็กเอนด์ และตรวจสอบโทเค็นในเซิร์ฟเวอร์