Conversion คือการกระทำของลูกค้าที่สำคัญต่อธุรกิจของคุณ เช่น การซื้อหรือการลงชื่อสมัครใช้ คุณสามารถใช้การวัด Conversion เพื่อดูว่าการโต้ตอบกับโฆษณานําไปสู่กิจกรรมของลูกค้าที่มีคุณค่าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงใด
วัด Conversion ด้วย Google Ads
การวัด Conversion ช่วยให้ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากลูกค้าโต้ตอบกับโฆษณา ไม่ว่าจะเป็นการซื้อผลิตภัณฑ์ ลงชื่อสมัครรับจดหมายข่าว โทรหาธุรกิจ หรือดาวน์โหลดแอป
gtag.js
- สร้างการกระทําที่ถือเป็น Conversion ก่อนที่จะตั้งค่าการวัด Conversion ใน Google Ads
- ในหน้าจอที่ปรากฏขึ้น ให้เลือกตัวเลือกที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณมากที่สุดในส่วนแท็ก Google แล้วทําตามวิธีการติดตั้งแท็ก ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการติดตั้งแท็ก Google
(ไม่บังคับ) แก้ไขแท็ก Google ตามที่ต้องการ ดังนี้
หากไม่ต้องการให้แท็ก Google เพิ่มผู้เข้าชมเว็บไซต์ลงในรายการรีมาร์เก็ตติ้งในการโหลดหน้าเว็บเริ่มต้น ให้เพิ่มโค้ดต่อไปนี้ลงในคำสั่ง
'config'
ในแท็ก Googlegtag('config', 'TAG_ID', {'send_page_view': false});
หากไม่ต้องการรวบรวมข้อมูลรีมาร์เก็ตติ้ง ให้เพิ่มคำสั่ง
gtag('set')
ต่อไปนี้ลงในแท็ก Google เหนือคำสั่งgtag('js')
การดำเนินการนี้จะปิดใช้การรวบรวมข้อมูลรีมาร์เก็ตติ้งสำหรับบัญชี Google Ads ที่กำหนดค่าทั้งหมด<script async src="https://www.googletagmanager.com/gtag/js?id=TAG_ID"></script> <script> window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('set', 'allow_ad_personalization_signals', false); gtag('js', new Date()); gtag('config', 'TAG_ID'); </script>
ข้าง "ข้อมูลโค้ดเหตุการณ์" ให้เลือกว่าจะวัด Conversion ในการโหลดหน้าเว็บหรือคลิก
- การโหลดหน้าเว็บ: นับ Conversion เมื่อลูกค้าไปที่หน้า Conversion เช่น หน้ายืนยันการซื้อหรือการลงชื่อสมัครใช้ นี่คือตัวเลือกเริ่มต้นและใช้บ่อยที่สุด ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยของ Google
- การคลิก: นับ Conversion เมื่อลูกค้าคลิกปุ่มหรือลิงก์ (เช่น ปุ่ม "ซื้อเลย")
คัดลอกข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ จากนั้นทำตามวิธีการเพิ่มข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ลงในเว็บไซต์ หรือคลิกดาวน์โหลดข้อมูลโค้ดไว้เพิ่มภายหลัง
- หากคุณวัด Conversion ตามการโหลดหน้าเว็บ ให้เพิ่มข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ลงในหน้าเว็บ
- หากคุณวัด Conversion ตามการคลิก ให้เพิ่มข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ลงในหน้าเว็บที่มีปุ่มหรือลิงก์ที่คุณต้องการตรวจสอบการคลิก
ข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ของ Google Ads ใช้
gtag('event', 'conversion', ...)
เพื่อทำเครื่องหมายเหตุการณ์เป็น Conversion เหตุการณ์ Conversion จะส่งออบเจ็กต์ที่มีพารามิเตอร์send_to
,value
และcurrency
ดูตัวอย่างด้านล่างนี้<script> gtag('event', 'conversion', { 'send_to': 'AW-123456789/AbC-D_efG-h12_34-567', 'value': 1.0, 'currency': 'USD' }); </script>
คลิกถัดไป แล้วคลิกเสร็จสิ้น
หากคุณวัดการคลิกในเว็บไซต์เป็น Conversion ให้ทําตามวิธีการเหล่านี้เพื่อเพิ่มโค้ดอีกส่วนหนึ่งลงในปุ่มหรือลิงก์ที่ต้องการวัด จำเป็นต้องมีขั้นตอนนี้เพื่อให้การวัด Conversion ทำงานได้
Tag Manager
- สร้างแท็ก Google Ads ใน Tag Manager จากหน้าจอหลัก ให้เลือกแท็กใหม่ > การกําหนดค่าแท็ก > เครื่องมือวัด Conversion ของ Google Ads
- ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads เพื่อดูค่าทั้งหมดที่คุณจะใช้เพื่อตั้งค่าแท็กให้สมบูรณ์
- ในบัญชี Google Ads ให้คลิกเครื่องมือและการตั้งค่า ( )
- เลือกการวัด: Conversion ซึ่งจะเปิดไปที่ตารางการกระทําที่ถือเป็น Conversion
- เลือกชื่อ Conversion ที่คุณต้องการใช้จากคอลัมน์การกระทำที่ถือเป็น Conversion
- ขยายแท็บสำหรับการตั้งค่าแท็กเพื่อดูรายละเอียดแท็ก
- เลือกใช้ Google Tag Manager
- คัดลอกรหัสแท็กและป้ายกำกับ Conversion
- เพิ่มค่ารหัสแท็กและป้ายกํากับ Conversion ที่จําเป็นลงในช่องที่กําหนด คุณยังสามารถเพิ่มมูลค่า Conversion, รหัสคำสั่งซื้อ และรหัสสกุลเงินได้อีกด้วย (ไม่บังคับ) อย่าลืมใช้ตัวแปร Tag Manager กับค่าของช่องเหล่านี้เมื่อจำเป็น เช่น ในกรณีส่วนใหญ่จะใช้ตัวแปรสำหรับรหัสคำสั่งซื้อ
- เลือกทริกเกอร์อย่างน้อย 1 รายการในส่วนการทริกเกอร์เพื่อระบุว่าแท็กควรเริ่มทํางานเมื่อใด
- บันทึกและนำคอนเทนเนอร์ไปใช้จริง
- ตรวจสอบว่าได้เปิดใช้ Conversion Linker แล้ว
- ดูตัวอย่างการเปลี่ยนแปลง และเผยแพร่เมื่อพร้อม
วัดเหตุการณ์สําคัญด้วย Google Analytics 4
หากต้องการตั้งค่าการวัดเหตุการณ์สําคัญด้วยพร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics 4 ให้ทําดังนี้
gtag.js
ส่งเหตุการณ์ที่ต้องการทําเครื่องหมายเป็นเหตุการณ์สําคัญ (หมายเหตุ:* เหตุการณ์หลายประเภทจะรวบรวมโดยอัตโนมัติ)*
gtag('event', 'login', { 'method': 'Google' });
ใน Google Analytics ให้ทําเครื่องหมายเหตุการณ์เป็นเหตุการณ์สําคัญ
Tag Manager
- ตั้งค่าแท็กเหตุการณ์ GA4 เพื่อส่งประเภทเหตุการณ์ที่ต้องการทําเครื่องหมายเป็นเหตุการณ์สําคัญ (หมายเหตุ:* ระบบจะรวบรวมเหตุการณ์หลายประเภทโดยอัตโนมัติ)* เหตุการณ์สําคัญ (หมายเหตุ:* เหตุการณ์หลายประเภทจะรวบรวมโดยอัตโนมัติ)*
- ใน Google Analytics ให้ทําเครื่องหมายเหตุการณ์เป็นเหตุการณ์สําคัญ
วัด Conversion ด้วย Display & Video 360 และ Campaign Manager 360
ระบบจะวัด Conversion ใน Display & Video 360 และ Campaign Manager 360 ด้วยแท็ก Floodlight แท็กตัวนับ Floodlight ใช้สำหรับนับจํานวนครั้งที่ผู้ใช้เข้าชมหน้าเว็บใดหน้าหนึ่งหลังจากดูหรือคลิกโฆษณา และแท็กยอดขาย Floodlight ใช้เพื่อวัดจํานวนและความคุ้มค่าของการซื้อ หากต้องการตั้งค่าการวัด Conversion ด้วยแท็ก Floodlight ให้เลือกตัวเลือกด้านล่าง
gtag.js
คุณอาจคัดลอกแท็ก Floodlight ได้จากภายใน Display & Video 360 และ Campaign Manager 360 การติดตั้งแต่ละครั้งเกี่ยวข้องกับแท็ก Google มาตรฐานเพื่อตั้งค่าการเชื่อมต่อข้อมูลกับผลิตภัณฑ์ และแท็กเหตุการณ์ที่รวบรวมข้อมูลที่คุณต้องการ ขั้นตอนมีดังนี้
ติดตั้งแท็ก Google แทนที่ DC-XXXXXX ในตัวอย่างนี้ด้วยรหัสการกําหนดค่าที่ถูกต้อง หรือคัดลอกแท็กจากภายในผลิตภัณฑ์
<!-- Google tag (gtag.js) --> <script async src="https://www.googletagmanager.com/gtag/js?id=DC-XXXXXX"></script> <script> window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'DC-XXXXXX'); </script>
ส่งเหตุการณ์ที่ต้องการทําเครื่องหมายเป็น Conversion ด้วย
gtag('event', ...)
ควรวางแท็กเหตุการณ์ไว้ในหน้าเว็บที่มีเหตุการณ์ที่คุณต้องการทำเครื่องหมายเป็น Conversion วางแท็กเหตุการณ์ไว้หลังข้อมูลโค้ดที่ติดทั่วเว็บไซต์ภายในส่วน
<head>
ช่องในข้อมูลโค้ดเหตุการณ์จะแตกต่างกันไปตามประเภทแท็ก วิธีนับ และข้อมูลอื่นๆ ที่ส่งไปยังแท็ก
คุณคัดลอกแท็กกิจกรรมได้จากภายในผลิตภัณฑ์ ตัวอย่างแสดงอยู่ด้านล่าง
<script> gtag('event', 'conversion', { 'allow_custom_scripts': true, 'u1': '[variable]', 'send_to': 'DC-[floodlightConfigID]/[activityGroupTagString]/[activityTagString]+[countingMethod]' }); </script> <noscript> <img src="https://ad.doubleclick.net/ddm/activity/src=[floodlightConfigID];type=[activityGroupTagString];cat=[activityTagString];dc_lat=;dc_rdid=;tag_for_child_directed_treatment=;ord=1?" width="1" height="1" alt=""/> </noscript>
Tag Manager (ตัวนับ)
การเพิ่มแท็กตัวนับ Floodlight ลงในคอนเทนเนอร์ทำได้ 2 วิธี ดังนี้
- ยอมรับแท็กที่พุชมาจากอินเทอร์เฟซผู้ใช้ของ Campaign Manager 360
- ใช้เทมเพลตแท็กตัวนับ Floodlight
ยอมรับแท็ก Floodlight ที่พุชมา
คุณสามารถพุชแท็กตัวนับ Floodlight จากอินเทอร์เฟซผู้ใช้ของ Campaign Manager 360 ไปยังคอนเทนเนอร์ได้โดยตรง เมื่อพุชแท็ก Floodlight ไปยัง Tag Manager คุณจะต้องอนุมัติคำขอลิงก์และแท็กที่พุชมา
วิธียอมรับแท็ก Floodlight ที่พุชมา
- ไปที่คิวการอนุมัติ > แท็ก
- คลิกชื่อกิจกรรม พารามิเตอร์บางตัว (เช่น ค่าของ
"src= "
,"type= "
และ"cat= "
) จะได้รับการตั้งค่าไว้ล่วงหน้า - ทำการเปลี่ยนแปลงแก้ไขตามต้องการในแท็ก แล้วคลิกอนุมัติ
- ตรวจสอบว่าเปิดใช้ Conversion Linker แล้ว
- บันทึกและนำคอนเทนเนอร์ไปใช้จริง
ตัวแปรที่กำหนดเองของ Floodlight เป็นคีย์-ค่าที่ใช้เพื่อติดตามข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้ที่คุณรวบรวมได้ ตัวแปร Floodlight ที่กำหนดเองใช้คีย์ u1=, u2= ฯลฯ สำหรับแท็กที่พุชเข้ามา ระบบจะเติมชื่อตัวแปร Tag Manager ให้ล่วงหน้าในช่องตัวแปรที่กำหนดเอง หากต้องการกำหนดค่าตัวแปรเหล่านี้ให้ส่งข้อมูลที่เหมาะสม ให้แมปเข้ากับตัวแปร Tag Manager
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการอนุมัติของ Floodlight
สร้างแท็กตัวนับ Floodlight ใหม่
วิธีสร้างแท็กตัวนับ Floodlight ใหม่ด้วยตนเอง
- ใน Tag Manager ให้คลิกแท็ก > ใหม่
- คลิกการกําหนดค่าแท็ก แล้วเลือกประเภทแท็กตัวนับ Floodlight
- หากต้องการรวบรวมค่าที่จําเป็นต่อการกําหนดค่าแท็ก ให้เปิดเบราว์เซอร์อีกหน้าต่างหนึ่ง แล้วลงชื่อเข้าใช้ Campaign Manager 360 คลิกผู้ลงโฆษณา แล้วคลิกชื่อผู้ลงโฆษณา ป้อนค่าเหล่านี้ในแท็กตัวนับ Floodlight ของ Tag Manager ใหม่
- รหัสผู้ลงโฆษณา: รหัสผู้ลงโฆษณาจะปรากฏในหน้ารายละเอียดผู้ลงโฆษณาด้านล่างชื่อผู้ลงโฆษณา ค่านี้ยังพบเป็นค่า
src=
ในแท็ก Floodlight ที่สร้างขึ้นอีกด้วย - สตริงแท็กกลุ่ม: ระบุกิจกรรมที่คุณต้องการใช้งานในตารางกิจกรรม และค้นหาสตริงแท็กกลุ่มที่แสดงในคอลัมน์ทางด้านขวา ค่านี้ยังพบเป็นค่า
type=
ในแท็ก Floodlight ที่สร้างขึ้นอีกด้วย - สตริงแท็กกิจกรรม: ระบุกิจกรรมที่คุณต้องการใช้งานในตารางกิจกรรม และค้นหาสตริงแท็กกิจกรรมที่แสดงในคอลัมน์ทางด้านขวา นอกจากนี้ค่านี้ยังพบเป็นค่า
cat=
ในแท็ก Floodlight ที่สร้างขึ้นอีกด้วย
- รหัสผู้ลงโฆษณา: รหัสผู้ลงโฆษณาจะปรากฏในหน้ารายละเอียดผู้ลงโฆษณาด้านล่างชื่อผู้ลงโฆษณา ค่านี้ยังพบเป็นค่า
- ตั้งค่าวิธีการนับที่ต้องการ ดังนี้
- มาตรฐาน: นับทุก Conversion
- ไม่ซ้ำ: นับ Conversion แรกของผู้ใช้ที่ไม่ซ้ำกันแต่ละรายในช่วง 24 ชม. ของแต่ละวัน ตั้งแต่เที่ยงคืนถึงเที่ยงคืน ตามเวลาตะวันออก (สหรัฐอเมริกา)
- ต่อเซสชัน: นับ 1 Conversion ต่อผู้ใช้ต่อเซสชัน ระยะเวลาในเซสชันจะกำหนดโดยเว็บไซต์ซึ่งมีการใช้แท็ก Floodlight อยู่
- ป้อนค่าสําหรับตัวแปร U และ Tran หากเป็นการติดตั้งใช้งานแบบเดิมที่ใช้ตัวแปรเหล่านี้
- ป้อนตัวแปรที่กำหนดเองที่คุณจำเป็นต้องใช้กับการติดตั้งใช้งาน ตัวแปรที่กำหนดเองของ Floodlight เป็นคู่คีย์-ค่าที่ใช้เพื่อบันทึกข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ใช้ได้ โดยจะมีการจัดรูปแบบคีย์เป็น "u1=", "u2=" ฯลฯ คลิก +ตัวแปรที่กำหนดเองเพื่อเพิ่มคู่คีย์-ค่าใหม่ สำหรับตัวแปรที่กำหนดเองแต่ละรายการ ให้เลือกตัวแปร Tag Manager ที่มีค่าที่คุณต้องการส่งต่อไปให้ตัวแปรที่กำหนดเองของ Floodlight
- คลิกการทริกเกอร์ และเลือกทริกเกอร์ที่สอดคล้องกับหน้า Landing Page สำหรับแคมเปญที่คุณต้องการให้แท็กเริ่มทำงาน
- ตรวจสอบว่าเปิดใช้ Conversion Linker แล้ว
- บันทึกและนำคอนเทนเนอร์ไปใช้จริง
Tag Manager (ฝ่ายขาย)
การเพิ่มแท็กยอดขาย Floodlight ลงในคอนเทนเนอร์ทำได้ 2 วิธีดังนี้
- ยอมรับแท็กที่พุชมาจากอินเทอร์เฟซผู้ใช้ของ Campaign Manager 360
- ใช้เทมเพลตแท็กยอดขาย Floodlight
ยอมรับแท็ก Floodlight ที่พุชจาก Campaign Manager 360
คุณจะเพิ่มแท็ก Floodlight ที่พุชจาก Campaign Manager 360 ไปยังคอนเทนเนอร์ Tag Manager ได้โดยตรง หากต้องการอนุญาต ให้อนุมัติคําขอลิงก์และแท็กที่พุชเข้ามา
- ไปที่ผู้ดูแลระบบ > คิวการอนุมัติ > แท็ก
- คลิกชื่อกิจกรรม พารามิเตอร์บางตัว (เช่น ค่าของ
src=
,type=
และcat=
) จะมีการกำหนดไว้ล่วงหน้า - ค่าพารามิเตอร์รายได้จะมาจากตัวแปร Tag Manager
cost
สร้างและกำหนดค่าตัวแปรcost
ที่ดึงจำนวนเงินรายได้ หากมีตัวแปรที่บันทึกรายได้จากธุรกรรมอยู่แล้ว ให้เปลี่ยนcost
เป็นชื่อตัวแปรนั้น - ค่าพารามิเตอร์รหัสคำสั่งซื้อจะมาจากตัวแปร Tag Manager {{ord}} สร้างและกำหนดค่าตัวแปร {{ord}} ที่ดึงรหัสคำสั่งซื้อ (หรือหากใช้วิธีการนับตามสินค้าที่ขาย ให้กําหนดค่าตัวแปรนี้เป็นการนับจํานวนสินค้าที่ขาย) หากมีตัวแปรที่บันทึกรหัสคำสั่งซื้ออยู่แล้ว ให้เปลี่ยน {{ord}} เป็นชื่อตัวแปรนั้น
- ตัวแปรที่กำหนดเองของ Floodlight คือคู่คีย์-ค่าที่ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลการใช้งานได้ ตัวแปร Floodlight ที่กำหนดเองใช้คีย์
_u1=
,_u2=
ฯลฯ สำหรับแท็กที่พุชเข้ามา ระบบจะเติมชื่อตัวแปรให้ในช่องตัวแปรที่กำหนดเอง จับคู่ตัวแปร Floodlight ที่กำหนดเองเหล่านี้กับตัวแปร Tag Manager เพื่อให้ส่งค่าของตัวแปรไปยังแท็ก Floodlight ได้ - แก้ไขแท็ก Floodlight ตามต้องการ แล้วคลิกอนุมัติ
- ตรวจสอบว่าได้เปิดใช้ Conversion Linker แล้ว
- บันทึกและนำคอนเทนเนอร์ไปใช้จริง
อ่านการอนุมัติเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม
ใช้เทมเพลตแท็กยอดขาย Floodlight
วิธีสร้างแท็กยอดขาย Floodlight ใหม่ด้วยตนเอง
- คลิกแท็ก > ใหม่
- คลิกการกําหนดค่าแท็ก > ยอดขาย Floodlight
- หากต้องการรวบรวมค่าที่จําเป็นต่อการกําหนดค่าแท็ก ให้เปิดเบราว์เซอร์อีกหน้าต่างหนึ่ง แล้วลงชื่อเข้าใช้ Campaign Manager 360 คลิกผู้ลงโฆษณา แล้วคลิกชื่อผู้ลงโฆษณา ป้อนค่าต่อไปนี้ในแท็กยอดขาย Floodlight ใหม่ของ Tag Manager
- รหัสผู้ลงโฆษณา: รหัสผู้ลงโฆษณาจะปรากฏในหน้ารายละเอียดผู้ลงโฆษณาด้านล่างชื่อของผู้ลงโฆษณา นอกจากนี้ค่านี้ยังพบเป็นค่า
src=
ในแท็ก Floodlight ที่สร้างขึ้นอีกด้วย - สตริงแท็กกลุ่ม: ระบุกิจกรรมที่คุณต้องการใช้งานในตารางกิจกรรม และค้นหาสตริงแท็กกลุ่มที่แสดงในคอลัมน์ทางด้านขวา ค่านี้ยังพบเป็นค่า
type=
ในแท็ก Floodlight ที่สร้างขึ้นอีกด้วย - สตริงแท็กกิจกรรม: ระบุกิจกรรมที่คุณต้องการใช้งานในตารางกิจกรรม และค้นหาสตริงแท็กกิจกรรมที่แสดงในคอลัมน์ทางด้านขวา ค่านี้ยังพบเป็นค่า
cat=
ในแท็ก Floodlight ที่สร้างขึ้นอีกด้วย
- รหัสผู้ลงโฆษณา: รหัสผู้ลงโฆษณาจะปรากฏในหน้ารายละเอียดผู้ลงโฆษณาด้านล่างชื่อของผู้ลงโฆษณา นอกจากนี้ค่านี้ยังพบเป็นค่า
- สำหรับรายได้ ให้เลือกตัวแปรที่เก็บจำนวนเงินรายได้ สําหรับรหัสคําสั่งซื้อ ให้เลือกตัวแปรที่เก็บรหัสคําสั่งซื้อ หากเลือกสินค้าที่ขายเป็นวิธีการนับ ให้เลือกตัวแปรที่มีจำนวนสินค้าที่ขาย สร้างตัวแปรเหล่านี้ใน Tag Manager หากยังไม่มี
- ตัวแปรที่กำหนดเองของ Floodlight คือคู่คีย์-ค่าที่ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมของผู้ใช้ ตัวแปร Floodlight ที่กำหนดเองจะใช้คีย์
_u1=
,_u2=
ฯลฯ สำหรับตัวแปรที่กำหนดเองแต่ละตัว ให้เลือกตัวแปร Tag Manager ที่มีค่าที่คุณต้องการส่งต่อไปให้ตัวแปรที่กำหนดเองของ Floodlight - เลือกทริกเกอร์ที่ตรงกับเหตุการณ์การซื้อ หรือสร้างทริกเกอร์ใหม่หากไม่ได้มีอยู่แล้ว การสร้างทริกเกอร์มีหลายวิธีด้วยกัน
โดยขึ้นอยู่กับเว็บไซต์ เป้าหมาย และการติดตั้งใช้งาน Tag Manager
ตัวอย่างเช่น ทริกเกอร์การดูหน้าเว็บมักใช้เพื่อช่วยเริ่มทํางานของแท็กในหน้ายืนยันการซื้อ สำหรับตัวกรองทริกเกอร์ ให้เพิ่ม URL ของหน้ายืนยันการซื้อ หรือใช้ชั้นข้อมูลเพื่อพุชเหตุการณ์ที่กําหนดเอง (
dataLayer.push({ 'event': 'purchase' });
) และตั้งค่าทริกเกอร์เป็นทริกเกอร์เหตุการณ์ที่กําหนดเองโดยตั้งค่าเงื่อนไขของเหตุการณ์เป็น "purchase" - เมื่อป้อนข้อมูลแท็กเสร็จแล้ว คลิกบันทึก
- ตรวจสอบว่าได้เปิดใช้ Conversion Linker แล้ว
- บันทึกและนำคอนเทนเนอร์ไปใช้จริง
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือวัดแท็ก Google สําหรับ Display & Video 360 และ Campaign Manager 360