กลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงหมายถึงการใช้ AdsApp.mutate เพื่อทำการเรียก API โดยตรง
แทนที่จะอาศัยออบเจ็กต์เฉพาะของสคริปต์ Google Ads ซึ่งมีประโยชน์คือ
ช่วยให้คุณเข้าถึงฟีเจอร์ทั้งหมดของ API ได้เร็วขึ้น และมีอุปสรรคในการเริ่มต้นใช้งานน้อยลง
หากคุณคุ้นเคยกับไวยากรณ์ของ API อยู่แล้ว
สร้างแคมเปญ Performance Max ด้วยการเปลี่ยนแปลง
คู่มือนี้ถือว่าคุณสร้างทั้งแคมเปญในคำขอเดียวแบบอะตอม แทนที่จะสร้างเอนทิตีแต่ละรายการในคำขอแยกกัน ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องตั้งค่าและใช้รหัสชั่วคราว เพื่อลิงก์แหล่งข้อมูลเข้าด้วยกัน
เมื่อตั้งค่านี้แล้ว ให้สร้างอาร์เรย์เพื่อเก็บการดำเนินการทั้งหมด
const operations = [];
คุณจะต้องใช้รหัสลูกค้าสำหรับลูกค้าที่คุณสร้างแคมเปญบ่อยครั้ง เนื่องจากต้องระบุในชื่อทรัพยากรทุกชื่อ
const customerId = AdsApp.currentAccount().getCustomerId();
ทุกครั้งที่ต้องการสร้างการดำเนินการใหม่ คุณจะต้องใช้รหัสชั่วคราวถัดไปในชื่อทรัพยากร เพื่อให้คุณอ้างอิงออบเจ็กต์นี้ได้ในภายหลัง และแทรกออบเจ็กต์ที่สร้างลงในอาร์เรย์
const newOperation = {
[OPERATION_TYPE_VARIES]: {
create: {
resourceName: `customers/${customerId}/[EXACT_PATH_VARIES]/${getNextTempId()}`
// Other fields, relevant to the resource being created.
}
}
}
operations.push(newOperation);
อ่านเพิ่มเติมและดูตัวอย่างการดำเนินการได้ที่เอกสารประกอบของ Google Ads API REST mutate ดูข้อมูลเกี่ยวกับองค์ประกอบที่จำเป็นและที่ไม่บังคับ ของแคมเปญ Performance Max แล้วสร้างการดำเนินการตามความต้องการ
เมื่อสร้างการดำเนินการทั้งหมดแล้ว ให้ดำเนินการใน กลุ่มเดียว
AdsApp.mutateAll(operations);